พัทยาระดมสมองรณรงค์โครงการ Pattaya One Voice SHA+ วางรากฐานแห่งความปลอดภัยในผู้ประกอบการ

          มีรายงานว่า นายเชาว์ วิมุกตายน NGO Pattaya ผู้ร่วมรณรงค์โครงการ Pattaya One Voice SHA+ ได้หารือร่วมกับนายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ผู้แทนภาคกลางและภาคตะวันออก สสปน. นายบรรลือ กุลละวณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา เพื่อระดมสมองแนวคิดการจัดการ Pattaya One Voice SHA+ ภายใต้มาตรฐาน ททท.และสาธารณสุขในการเปิดเมืองพัทยาต้อนรับนักท่องเที่ยวในระบบ SHA+
            นายเชาว์ วิมุกตายน NGO Pattaya ผู้ร่วมรณรงค์โครงการ Pattaya One Voice SHA+ กล่าวว่า โครงการ Pattaya One Voice SHA+ คือการรณรงค์ร่วมระหว่างเมืองพัทยากับผู้ประกอบการชมรมทุกสมาคมในเมืองพัทยาเพื่อร่วมมือกันสร้างวิธีการควบคุมเชื้อไวรัส covid 19 โดยการจัดร้านค้าและสถานประกอบการของตนเองให้อยู่ภายใต้มาตรฐาน SHA+ ที่คิดค้นขึ้นโดยความร่วมมือของกระทรวงการท่องเที่ยวฯและกระทรวงสาธารณสุขในเชิงปฏิบัติให้ได้จริง โดยไม่ต้องคำนึงถึงการได้ใบรับรองเป็นสำคัญก่อน
          ทั้งนี้สำหรับวิธีการ SHA+ พิสูจน์ได้ว่าเป็นการป้องกันและปราบปรามเชื้อไวรัส covid-19 ได้แบบบูรณาการ ซึ่งจะสามารถสร้างร้านค้าและสถานบริการในพื้นที่ให้ปลอดภัย ปลอดเชื้อได้ โดยวิธีสร้าง SHA+ PLUS ประกอบด้วย
– การเคร่งครัด ในการสวมหน้ากากอนามัย
– มีจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิและเจลล้างมือ
– มีการฆ่าเชื้อสถานที่ โต๊ะเก้าอี้ ห้องน้ำอย่างสม่ำเสมอ และพนักงานได้รับวัคซีนอย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์
           เมื่อร้านค้าและสถานประกอบการต่างๆ สามารถจัดทำระบบ SHA+ได้ตาม มาตรฐานแล้วก็จะมีการออกใบสมัครสมาชิกและลงนาม MOU ให้กับชมรมและสมาคมต่างๆ ในพื้นที่เมืองพัทยาในเบื้องต้น ก่อนรวบรวมส่งมอบการขอใบรับรอง SHA+ จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยต่อไป

           อย่างไรก็ตามโครงการ Pattaya One Voice SHA+ มุ่งเน้นเรื่องการปฏิบัติการจริงในเชิงรุก เพราะการมีมาตรฐาน ในร้านค้าสถานประกอบการจะเป็นสิ่งยืนยัน ความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ได้ จริง ซึ่งหลังจากนี้เมืองพัทยาจะยื่นหนังสือขออนุญาตต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กระทรวงสาธารณสุข และกรมป้องกันและควบคุมโรค เพื่อเปิดเมืองพัทยาเป็นเมือง นำร่องที่มีสุขลักษณะ ได้แก่ ความสะอาด มีวิธีการจัดการ ควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 ได้ เพื่อเป็นการจุดประกายความหวัง ให้กับสถานประกอบการต่างๆ และประชาชนจะสามารถปรับตัวอยู่กับเชื้อไวรัสนี้ได้ โดยไม่ต้องปิดหรือหนีอีกต่อไป คาดว่าความหวังยิ่งใหญ่นี้จะเริ่มต้นที่เมืองพัทยาเป็นต้นแบบนำร่องพร้อมจะขยายในพื้นที่อื่นที่มีศักยภาพพร้อมเดินหน้าต่อไป

 

Subscribe
Advertisement