ผู้ประกอบการพัทยารวมตัวกระตุ้นผู้ว่าชลบุรี ผ่อนผันอนุญาตให้จำหน่ายแอลกอฮอล์ ข้องใจพัทยาเมืองท่องเที่ยวระดับโลกพื้นที่ Blue Zone มาตรการควบคุมโรคเข้มข้น แต่ที่ผ่านมากลับไม่ได้รับการพิจารณา

            (3 ธ.ค.64) ที่บริเวณหน้าโครงการถนนคนเดินวอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กลุ่มผู้ประกอบการจาก 8 องค์กรภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวภาคเอกชน ร่วมกับกลุ่มผู้ให้บริการกว่า 100 คน ตั้งโต๊ะเปิดแถลงข่าวโดยมีเจตนาเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในเมืองพัทยา หลังไม่ได้รับการผ่อนปรนให้สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่เมืองพัทยาได้ ทั้งๆ ที่เป็นพื้นที่ Blue Zone และมีมาตรการควบคุมโรคที่เข้มข้น โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ที่เมืองพัทยาได้ดำเนินการไปแล้วเกินกว่า 85% ของยอดโดยรวมทั้งหมด จนทำให้สถิติการแพร่ระบาดลดลงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
         นายนริศ เพ็ชรรัตน์ นายกสมาคมผู้ประกอบค้าวอล์คกิ้งสตรีท พัทยา กล่าวว่า หลังจากที่ผู้ประกอบ การต้องปิดกิจการลงจากปัญหาโรคโควิด-19 ตั้งแต่ระลอกแรกจนถึงปัจจุบันกินเวลานานกว่า 2 ปี ส่งผลให้ประสบกับปัญหาการขาดสภาพคล่อง แรงงานตกงานนับหมื่นชีวิต เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวได้รับความเสียหายอย่างหนัก กระทั่งมีกระแสว่ารัฐบาลมีแผนจะเปิดประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลผู้ประกอบการต่างๆ เฝ้ารออย่างมีความหวังที่จะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง โดยมีการเตรียมความพร้อมในการปรับปรุงร้าน การฉีดวัคซีนให้กับผู้ให้บริการอย่างครบถ้วน และดำเนินการที่สอดคล้องกับมาตรการการป้องกันโรคของภาครัฐ ทั้งการสมัครเข้าร่วมและผ่านมาตรการการประเมินของรัฐตามโครงการ SHA Plus+
          ขณะที่เมืองพัทยาเองก็ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักระดับโลก ที่เมืองพัทยามีมาตรการควบคุมอย่างดีจนสถิติต่างๆ ลดลง และอยู่ในพื้นที่ Blue Zone หรือ 7 จังหวัดท่องเที่ยวที่รัฐมีแผนจะผ่อนปรน แต่ปรากฏว่าที่ผ่านมามีพื้นที่แค่ 4 เมืองท่องเที่ยวหลักเท่านั้นที่ได้รับการพิจารณา ขณะที่เมืองพัทยายังไม่ได้รับการผ่อนปรนใดๆ ซึ่งกรณีนี้ภาคเอกชนพยายามนำเสนอแผนและผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้มีการผ่อนปรนอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในช่วงเดือนธันวาคมนี้เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมากหลังเปิดประเทศไปเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา
          นายนริศ กล่าวต่อไปว่าอย่างไรก็ตามล่าสุดได้นำเสนอเรื่องผ่านไปยังนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เพื่อส่งต่อไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ซึ่งล่าสุดทราบว่ามีคำสั่งการให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีลงพื้นที่มาตรวจสอบความเป็นไปได้ในข้อยกเว้นดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะมีผลตอบรับที่ดีในเร็ววันนี้
          ด้านนายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า ขณะนี้เมืองพัทยาได้มีการประสานไปยังจังหวัดชลบุรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะมีหนังสือสั่งการลงมาในเร็ววันนี้ โดยจะอนุญาตให้ร้านอาหาร โรงแรม หรือบาร์เบียร์ สามารถเปิดร้านและจำหน่ายแอลกอฮอล์ได้ แต่ทางร้านจะต้องมีมาตรฐาน SHA Plus + ที่รับรองรองจาก ททท. และ Covid Free setting หรือมาตรการความปลอดภัยสำหรับองค์กร ซึ่งผู้ประกอบการสามารถดำเนินการได้เองโดยจะมีข้อห้ามอยู่ประมาณ 40-50 ข้อ ที่ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการก็ปฏิบัติกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

          ขณะที่นายพิสูจน์ แซ่คู นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมเมืองพัทยาถึงได้รับการผ่อนปรนหรือพิจารณาช้าที่พื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ทั้งที่เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก อย่างไรก็ตามเมื่อมีแนวโน้มว่าจะมีการอนุญาตในเร็ววันนี้ก็ถือว่าเป็นข่าวดีและจะทำให้ภาพรวมด้านเศรษฐกิจ และการท่อง เที่ยวของเมืองพัทยาดีขึ้นอย่างแน่นอน อยนอกจากนี้ปัญหาแรงงานคงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีการรับสมัครและเปิดรับเข้ามาใหม่ โดยทุกคนจะต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานของการฉีดวัคซีนครบโดส และมีการตรวจ ATK มาอย่างครบถ้วน
            มีรายงานจากในส่วนของฝ่ายปกครอง ว่ากรณีการจะอนุญาตให้ผู้ประกอบการร้านอาหารในเมืองพัทยาสามารถจำหน่ายแอลกอฮอล์ได้นั้น นอกจากทางร้านจะต้องมีมาตรฐานที่รัฐกำหนด และมาตรการในการเฝ้าระวังโรคในส่วนของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังจะต้องมีคำว่า “ควรจะ” ซึ่งหมายถึงอาจจะต้องมีการตรวจสอบนักท่องเที่ยวในเรื่องของการรับวัคซีน การตรวจ ATK การเว้นระยะห่างทางสังคม หรือการสวมหน้ากากอนามัยด้วย เพราะหากเกิดปัญหาการแพร่ระบาดและการติดเชื้อในวงกว้างก็คงจะต้องใช้มาตรการ “ต้องทำ” หรือมีข้อห้ามที่ต้องบังคับการตรวจสอบโดยละเอียดก่อนการให้บริการ ซึ่งกรณีนี้จะมีคำสั่งการทั้งในส่วนของฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ให้ดำเนินการกวดขันตรวจสอบเพื่อป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดหรือคลัสเตอร์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หากมีการละเลยหรือไม่ดำเนินการตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขได้

Subscribe
Advertisement