หญิงแสบอ้างเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ปล่อยตึกให้เช่าก่อนฉกเงินสูญหาย ด้านเจ้าทุกข์โร่แจ้งความดำเนินคดีเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

          เมื่อวันที่ 13 พ.ย.64 นายวรินทร ชะนะดิษฐ์ อายุ 18 ปี นายชัยภูมิ ปัญญา อายุ 25 ปี พร้อมด้วยเจ้าของอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งภายในซอยเนินพลับหวาน เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง หลังถูกนางอรพรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี อ้างว่าเป็นนายหน้า โกงค่าเช่าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งไป หลังวางเงินมัดจำไปแล้วเรื่องเงียบหาย

          นายวรินทร ผู้เสียหายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนมีความประสงค์จะเปิดร้านจำหน่ายล้อและอะไหล่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ โดยโพสต์ประกาศหาอาคารพาณิชย์ให้เช่าในหลาย ๆ เพจดังของเมืองพัทยา ต่อมามีนายหน้าผู้ก่อเหตุ ใช้ชื่อเฟซบุ๊คเพจว่า “นายหน้า อสังหาริมทรัพย์ พัทยา ชลบุรี” ทักแชทส่วนตัวมาว่ามีตึกว่างให้เช่าภายในซอยเนินพลับหวาน ทำเลดีเหมาะแก่การทำธุรกิจ จึงสนใจไปดู และนัดทำสัญญาเช่า พร้อมจ่ายเงินค่ามัดจำไปจำนวน 30,000 บาท ต่อมาตนมีปัญหาไม่สามารถเปิดธุรกิจได้ จึงได้ติดต่อไปทางนายชัยภูมิ ผู้เสียหายอีก 1 ราย ซึ่งรู้จักสนิทสนมกัน พร้อมแจ้งไปยังนายหน้าว่าจะเปลี่ยนมือผู้เช่าแต่จะใช้เงินมัดจำก้อนเดิม

          ด้านนายชัยภูมิ เล่าว่า ต่อมาตนมีปัญหาไม่สามารถทำธุรกิจแล้ว และด้วยเกรงว่าจะเสียค่าเช่ารายเดือนสูญเปล่า เนื่องจากเซ็นสัญญาไป 2 ปี จึงให้นายหน้ารายนี้ช่วยหาคนมาเช่าแทนพร้อมขอคืนเงินค่ามัดจำทั้งหมด ซึ่งนายหน้าก็รับปากโดยดีว่าจะหาผู้เช่ารายใหม่มาให้ พร้อมยินยอมจะคืนเงินให้ทั้งหมด แต่ขอค่าดำเนินการต่าง ๆ เพิ่มเติมอีกประมาณ 10,000 บาท แต่สุดท้ายแล้วเหมือนถูกหลอก เพราะลูกค้ารายใหม่ไม่มีอยู่จริง แถมเงินเก่าก็ยังไม่ได้คืน เบ็ดเสร็จแล้วโดนนายหน้ารายหนี้หลอกเอาเงินไปจำนวน 40,000 บาท และบ่ายเบี่ยงที่จะโอนเงินให้มาโดยตลอด

ด้านเจ้าของอาคารพาณิชย์รายหนึ่งภายในซอยเนินพลับหวาน เล่าว่า ได้รับการติดต่อจากนายหน้ารายนี้ว่าเป็นนายหน้าหาผู้เช่ามาเช่าตึก พร้อมกันนี้ได้ขอเบิกเงินจำนวน 1,500 บาท โดยอ้างว่าจะทำความสะอาดตึกเพื่อให้ลูกค้ามาดู และนัดวันทำสัญญา แต่ปรากฏว่าวันที่ทำสัญญากลับไม่มีลูกค้ามาตามนัด โดยอ้างว่าติดต่อลูกค้าไม่ได้ ภายหลังตนสามารถติดต่อกับลูกค้าได้ จึงทราบว่าลูกค้าได้จ่ายเงินมัดจำค่าเช่าตึกใหกับนายหน้าคนนี้ไปแล้ว แต่นายหน้าไม่ได้ส่งเงินต่อมาให้ จึงรวมตัวกันเดินทางมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนายหน้ารายนี้ตามกฎหมายต่อไป และเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนระวังนายหน้าคนนี้ต่อไป

           จากนั้นนางอรพรรณ ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา โดยให้การรับสารภาพว่าทำจริง ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวตนได้นำไปใช้หมดแล้ว พร้อมรับปากว่าจะพยายามหาเงินมาชดใช้ แต่จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไร้วี่แวว

มีรายงานเพิ่มเติมว่า นางอรพรรณ เคยก่อคดีในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง และเคยเป็นคดีขึ้นโรงขึ้นศาล จึงขอให้ทุกคนระมัดระวังในการติดต่อเจรจาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับผู้ก่อเหตุรายนี้ด้วย