เมื่อเวลา 17.00น.วันที่ 19 ตุลาคม 2564 พ.ต.ท.พิชัยธนศิลป์ สินพิชัย รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.บ้านบึง ได้รับแจ้งจากสายตรวจหนองชากว่าเกิดเหตุควายถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต บริเวณหมู่บ้านหัวสะพาน หลังวัดเนื่องจำนงค์ หมู่ 3 ตำบลหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบควายท้องแก่ เพศเมีย ชื่อศรี อายุประมาณ 4 ปี นอนตะแคง ขาหลังสองข้างพาดกับลวด นอนตายขวางทางเดินห่างจากคอกควายที่อยู่อีกฝั่ง พร้อมทั้งยังพบบ้านพักคนงาน มีการทำรั้วไม้ป้องกันตัวบ้านและมีลวดขึงพันกับเสาไม้ไผ่ปักตามสองข้างทางเดิน ทั้งรอบตัวบ้านและสวน มีป้ายเขียนข้อความบนแผ่นไม่อัด ว่า “ช็อตไฟอยู่นะ”
ซึ่งทางญาติๆ เจ้าของควาย ต่างก็ให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่า เรื่องนี้ให้เป็นบทเรียน การขึงลวดป้องกันควรมีสวิทซ์ตัดไฟ ไม่ใช่ต่อตรงถือว่าอันตรายมาก อีกทั้งบริเวณนี้มีเด็กๆ ผ่านมาเป็นประจำ ซึ่งอาจจะทำให้เด็กได้รับอันตรายได้
ด้านนางสมพิษ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านที่ล้อมรั้วด้วยลวดและปล่อยกระแสไฟฟ้า เปิดเผยว่า เคยเตือนเจ้าของควายว่าอย่าให้ควายมาย่ำผลผลิตทำให้เกิดความเสียหาย แต่อีกฝ่ายก็เฉยๆทั้งท่อน้ำประปาก็ถูกเหยียบจนแตก เพิ่งจะมาซ่อมให้ไม่กี่วัน ประกอบกับควายมีจำนวนกว่า 30 ตัว คนเลี้ยงดูแลไม่ทั่วถึง และสามีเพิ่งจะขึงลวดปล่อยไฟได้เพียงแค่ 3 วันก็มาเกิดเรื่องดังกล่าว
สอบถามนายมานัส แซ่ซิ้ม อายุ 46 ปี เจ้าของควาย เปิดเผยว่า ตนเองเลี้ยงควาย เพื่อเอาไว้ประกวด ตัวที่ถูกไฟดูดตาย เป็นควายท้องแก่ อีกประมาณ 2 เดือน ก็จะออกลูกแล้ว เห็นแล้วรู้สึกสงสารควาย เพราะอยู่ด้วยกันมานาน ฝากถึงเจ้าของบ้านการทำลวดไฟฟ้าเพื่อช็อตไล่ควายควรมีสวิทซ์ตัดไฟ ไม่ใช่ต่อตรงผ่านเบรกเกอร์เปิด – ปิด เพียงอย่างเดียว กระแสไฟไหลผ่านขนาดนี้ ควายน้ำหนักตัวเป็นตันๆยังไงก็ไม่รอด อีกทั้งควายที่ตายไป ราคากว่า 150,000 บาท ส่วนเรื่องค่าเสียหายตนเองให้ทางคู่กรณีชดใช้ 50,000 บาท โดยแบ่งจ่ายเป็นสองงวด ภายในสิ้นปีนี้
