นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยถึงกรณีที่จะมีแผนเลื่อนการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ 5 จังหวัด จากเดิมในวันที่ 1 ตุลาคมเป็นวันที่ 1 พฤศจิกายนนั้น กรณีนี้คงเป็นเรื่องมาตรการด้านความปลอดภัยที่ทางกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญมาก เนื่องจากพบว่าการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่นั้นจะมีการฉีดไปแค่ 1 เข็ม อย่างพื้นที่จังหวัดชลบุรีเองที่ผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานต่อ รมต.ทท.และกีฬา ในโอกาสที่มาประชุมร่วมกับ อปท.และภาคธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งรายงานว่ามีการฉีดวัคซีนไปแล้วในพื้นที่ พัทยา-บางละมุง และสัตหีบ กว่า 70% จากจำนวนประชากร แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเข็มแรกเท่านั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงต้องการความมั่นใจในการป้องกันการติดเชื้อ จึงอยากให้เลื่อนเวลาและฉีดให้ครบตามมาตรการก่อน
ขณะที่ในส่วนของภาคการให้บริการด้านการท่องเที่ยวนั้นก็พบว่าฉีดไปแล้วกว่า 90% แต่การฉีดเข็ม 2 ในภาพรวมก็ยังพบว่าขาดอยู่ประมาณ 2 หมื่นกว่าราย ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ จึงประสานในการขอจัดสรรวัคซีนเพิ่มซึ่งก็การตอบรับที่ดี และปัจจุบันเมืองพัทยาก็ฉีดวัคซีนให้ประชาชนทุกภาคส่วนทุกวัน วันละประมาณ 3-4 พันคน จึงเชื่อว่ายอดที่ยังฉีดไม่ครบ 2 เข็ม จำนวน 20,000 กว่าราย ก็จะสามารถดำเนินการได้ในเวลาเพียงแค่ 5-7 วันเท่านั้น ซึ่งทันตามระยะเวลาที่ทางกระทรวงสาธารณสุขหรือภาครัฐกำหนดไว้อย่างแน่นอน ทั้งนี้เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัย และความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่จะเดินทางมาพักผ่อนที่เมืองพัทยาในอนาคต
นายสนธยา กล่าวอีกว่าสำหรับกรณีที่ภาคธุรกิจเป็นห่วงว่าการเลื่อนเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวไปอีก 1 เดือนอาจทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความสับสนนั้น ส่วนตัวแล้วคิดว่าเรื่องนี้ทาง ททท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงรับทราบมาตรการและมีการประชาสัมพันธ์ไปสู่ภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และด้านการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่เมืองพัทยาเองก่อนหน้านี้ได้มีการนำเสนอโครงการเพื่อตั้งงบประมาณในการจัดกิจกรรมหรือ Event ในช่วงที่มีการเปิดเมืองอยู่แล้วตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงปลายปี 64 จึงถือว่ามีความพร้อมอย่างเต็มที่ แม้เมื่อถึงเวลาจะไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากนักแต่ก็คาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวภายในประเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ดีขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีแน่นอน
Advertisement
