ศบค.ใหญ่ปลดล็อกร้านอาหาร ให้สามารถนั่งทานที่ร้านได้ แต่ต้องมีการจำกัดผู้เข้าไปใช้บริการ พร้อมปฏิบัติตามมาตรการ ศบค.อย่างเข้มข้น ด้านร้านอาหารส่วนใหญ่ดีใจ แต่พบว่าบางร้านก็ยังไม่เปิดให้บริการเพราะยังหวาดกลัวการแพร่ระบาด

 

        เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 หลังจากที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ได้มีมติเห็นชอบในการคลายล็อกในพื้นที่สีแดงเข้ม ในส่วนของร้านอาหารพบว่ามีการคลายล็อกกันมากขึ้น ประกอบไปด้วย ร้านห้องแอร์ สามารถนั่งรับประทานในร้านได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ร้านเปิดโล่งหรือไม่เปิดแอร์ สามารถนั่งรับประทานในร้านได้ 75 เปอร์เซ็นต์ ส่วนข้อควรปฏิบัติสำหรับร้านอาหารนั้น จะต้องจัดสภาพแวดล้อมโดยรอบไม่ให้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อ เช่น การเว้นระยะห่าง ไม่แออัด อากาศถ่ายเทได้ดี , พนักงานต้องปลอดโรค ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ถ้ายังไม่ได้ฉีด หรือ ฉีดไม่ครบ ต้องตรวจเชื้อด้วยชุด ATK ทุก 3-7 วัน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันในการให้บริการแก่ลูกค้า เช่น การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ไม่มีการรวมกลุ่ม และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์

          ส่วนใครที่สามารถเข้าไปใช้บริการร้านอาหารได้บ้าง ถึงแม้ว่า ศบค.จะคลายล็อก แต่ก็ได้มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่สามารถใช้บริการได้ไว้ดังนี้ 1. ลูกค้าต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม โดยให้แสดงบัตรเขียว เพื่อแสดงว่าได้รับวัคซีนครบ 2 โดส 2. หากเคยติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน ให้แสดงบัตรแหลือง เพื่อแสดงว่าเคยติดเชื้อหายแล้วมากกกว่า 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน 3. หากฉีดวัคซีนโควิด-19 เพียง 1 เข็ม หรือยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดใดเลย ให้ใช้ผลตรวจ ATK ซึ่งตรวจเองที่บ้านมาเป็นหลักฐานประกอบการเข้าไปใช้บริการในร้านอาหาร และสำหรับลูกค้าที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนและไม่มีผลตรวจโควิด-19 ไม่สามารถเข้าไปใช้บริการในร้านอาหารในพื้นที่สีแดงเข้มได้

         ทั้งนี้หลัง ศบค.ปลดล็อกร้านอาหารพบว่าในวันนี้ร้านอาหารต่างๆ ต่างเปิดรับลูกค้าและปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.อย่างเข้มงวด ทำให้บรรยากาศในการจับจ่ายซื้ออาหารคึกคักมาก
         นางไพรัตน์ พุทธรักษ์สกุล เจ้าของร้านเจ๊โต ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังในพื้นที่เมืองพัทยา เผยว่า หลังพบว่า ศบค.ใหญ่ได้มีการประกาศปลดล็อกก็ดีใจ เพราะว่ายอดการขายอาหารลดลงไปมาก เนื่องจากว่าลูกค้าที่ทำงานที่ต้องเดินทางก็จะไม่สะดวก อาหารบางประเภทของทางร้านก็จะขายไม่ดีไปเลย อย่างเช่นก๋วยเตี๋ยว เนื่องจากการซื้อกลับบ้านก็จะไม่เป็นที่นิยม พอหลัง ศบค.ปลดล็อกก็พบว่าได้ศึกษาข้อมูลและแนวทางปฏิบัติอย่างชัดเจนและพร้อมปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐอย่างเข้มข้น โดยในวันนี้เป็นการเปิดร้านวันแรก พบว่าตั้งแต่ 09.00 น. ลูกค้าเข้ามาไม่ขาดสายเรียกว่าแบบแน่นร้าน เหมือนลูกค้าก็อัดอั้น อยากนั่งทานที่ร้าน ซึ่งทางร้านก็ได้ปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐอย่าเข้มงวด

ขณะที่ทางด้านของร้านข้าวแกงเจ๊ดู ที่มีนางสาวเอ็นดู ใจตรง เป็นเจ้าของร้าน ก็พบว่าในวันนี้ยังไม่เปิดให้ลูกค้าได้นั่งทานที่ร้าน ก็ยังคงให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านเหมือนเดิม โดยให้เหตุผลกับผู้สื่อข่าวว่า ยังคงไม่มั่นใจกับยอดจำนวนผู้ป่วย ที่สำหรับตัวเองก็ยังคงมองว่าภาพรวมยังไม่ลดลง จึงยังไม่เปิดให้บริการรับประทานที่ร้าน ซึ่งวันนี้ลูกค้าหลายคนก็สอบถามว่านั่งทานที่ร้านได้หรือยัง ก็ตอบไปว่ายังก่อน อยากให้สถานการณ์นิ่งกว่านี้อีก เพราะว่าตัวเองก็อายุมากแล้ว รวมถึงตัวเองกับลูกน้องก็ยังได้รับวัคซีนยังไม่ครบ จะได้รับเข็มที่ 2 ในวันที่ 5 กันยายน นี้ ก็อาจจะต้องรอดูสถานการณ์หลังคลายล็อกไปก่อน ส่วนยอดของการขายแบบซื้อกลับไปทานที่ร้านพบว่าลดลงบ้างแต่ก็ไม่มาก ลดลงเพียง 10-20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เนื่องจากทุกร้านซื้อกลับไปทานหมด แต่ถ้าปลดล็อกแล้วมีผลกับยอดการขาย ก็อาจจะมีผลต่อการเปิดให้ลูกค้านั่งทานที่ร้านได้เร็วขึ้นมากขึ้นด้วย สำหรับมาตรการของภาครัฐที่ออกมานั้นถือว่าดี และร้านก็พร้อมจะปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด

Subscribe
Advertisement