จุดพักคอยเทศบาลเมืองหนองปรือ พบผู้ป่วยเข้าพัก 20 ราย ด้านนายกหนองปรือเผยหากพบผู้ป่วยเพิ่ม พร้อมเปิดจุดพักคอยรับผู้ป่วยได้ทันที อนาคตเตรียมเดินหน้าค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกด้วยการตรวจ ATK กลุ่มเสี่ยงสูง ลดการแพร่ระบาดของผู้ป่วยในพื้นที่

        นายวินัย อินทร์พิทักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงสถานการณ์การรับผู้ป่วยสีเขียวเข้าทำการรักษาตัวที่จุดพักคอยของเทศบาล ที่ได้ใช้สถานที่โรงแรมรามันยาเป็นสถานที่ในการดูแลผู้ป่วยสีเขียว โดยทางเทศบาลเมืองหนองปรือได้ดำเนินการเปิดจุดพักคอยดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา เพื่อให้ทันกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เบื้องต้นทางเทศบาลได้ทำการเปิดห้องพักจำนวน 20 ห้อง ซึ่งสามารถที่จะรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 40 คน เป็นเฟสแรกก่อน ซึ่งจากการเปิดจุดพักคอยตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา พบว่าปัจจุบันมีผู้ป่วยอาการสีเขียวจำนวน 20 ราย ที่ได้เข้าทำการรักษาอาการป่วยที่จุดพักคอย และมีเจ้าหน้าสาธารณสุข ทีมแพทย์ พยาบาล ดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่รับผู้ป่วยเข้ามาดูแลก็ไม่พบว่ามีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น
          สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พบว่าปัจจุบันยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และหากในอนาคตพบมีผู้ป่วยติดเชื้อเกิดขึ้นก็พร้อมที่จะเปิดห้องพักเพิ่มได้ทันที นอกจากแผนในการรับมือในการรักษาผู้ป่วยแล้ว แผนการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของเทศบาลเมืองหนองปรือ ก็พบว่าปัจจุบันเตรียมเดินหน้าเชิงรุกในการจัดซื้อ ATK (Antigen Test Kit) หรือชุดตรวจหาเชื้อด้วยตัวเอง โดยจะใช้งบประมาณในการจัดซื้อจากกองทุนส่งเสริมหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองหนองปรือ เพื่อนำไปทำการตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงสูง เป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเบื้องต้น โดยในการตรวจนั้นเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ดำเนินตรวจให้กับกลุ่มเสี่ยงสูงเอง โดยหากพบว่าติดเชื้อก็จะได้ให้ไปทำการตรวจอีกครั้งที่โรงพยาบาลเพื่อยืนยันผล ก่อนเข้าสู่กระบวนการรักษาตามลำดับ
ทั้งนี้การตรวจหาเชื้อเชิงรุกด้วยชุด ATK นั้นถือว่าเป็นการค้นหาผู้ป่วยในเบื้องต้นด้วยตัวเอง เป็นการคัดกรองโรคในเบื้องต้น ซึ่งพบว่าหากพื้นที่ใดมีผู้ป่วยเกิดขึ้นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หรือกลุ่มเสี่ยงก็จะได้รับการตรวจจากเจ้าหน้าที่ไปด้วย ซึ่งการเดินหน้าค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกด้วยวิธีนี้ก็น่าจะเป็นการลดการแพร่ระบาดในพื้นที่ไปได้มากทีเดียว
Subscribe
Advertisement