รอง ผอ.รพ.บางละมุงเผยจุดพักคอยเมืองหนองปรือมีความพร้อมและเหมาะสม ด้าน รพ.สนาม 1,500 เตียง ใกล้เต็ม คาด 2-3 วันนี้ อาจต้องเริ่มใช้พื้นที่จุดพักคอยของท้องถิ่น คาดประชาชนพื้นที่ใกล้เคียงเข้าใจ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน

         เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 นายแพทย์ชาญชัย ลิ้มธงเจริญ รองผู้อำนวยโรงพยาบาลบางละมุง เปิดเผยถึงการดำเนินการจุดพักคอยของแต่ละท้องถิ่นว่า ขณะนี้พบว่าแต่ละพื้นที่มีความพร้อมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองหนองปรือ ที่พบว่าใช้สถานที่ของโรงแรม Ramaya เป็นจุดพักคอย ซึ่งจากการลงพื้นที่มาทำการตรวจสอบความพร้อมในด้านต่างๆ นั้นพบว่าอาจจะต้องมีการแก้ไขปรับปรุงในแต่ละจุดอีกไม่มากก็จะสามารถเปิดให้ผู้ป่วยสีเขียวเข้ามาพักดูอาการได้ คาดว่าในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ จุดพักคอยต่างๆ ของแต่ละท้องถิ่นก็น่าจะสามารถเปิดให้ผู้ป่วยเข้ารักษาอาการป่วยได้
           และจากการลงพื้นที่จุดพักคอยของเมืองหนองปรือพบว่ามีความพร้อมเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของสถานที่ และบุคลากรในการช่วยเหลืองานเจ้าหน้าที่ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจากขณะนี้ในส่วนของเตียงที่โรงพยาบาลที่มีทั้งสิ้น 120 เตียง ที่รักษาผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะสีแดง ก็พบว่าใกล้เต็มเต็มที ส่วนโรงพยาบาลสนามที่สามารถรองรับผู้ป่วยในจำนวนกว่า 1,500 คน ก็พบว่าขณะนี้มีจำนวนผู้ป่วยเข้ารักษาอาการป่วยแล้วกว่า 1,200 คน และจากจำนวนผู้ป่วยในพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นถึงวันละ 100-200 ราย ก็คาดว่าไม่น่าจะเกิน 2-3 วันนี้อาจจะต้องมีการย้ายผู้ป่วยเข้ามาอยู่ที่จุดพักคอยของท้องถิ่น ซึ่งการดำเนินการให้มีจุดพักคอยของแต่ละท้องถิ่นนั้นถือว่าเป็นการช่วยลดการแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนามได้เป็นอย่างดี ซึ่งผู้ป่วยที่เข้าไปอยูที่จุดพักคอยนั้นจะเป็นผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียวที่มีอาการไม่หนัก หรือไม่แสดงอาการ โดยเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขจะเข้ามาดูแลอาการอย่างใกล้ชิด โดยในบางวันแพทย์ก็จะมีการสอบถามอาการป่วยของผู้ป่วยทาง CCTV ผ่านห้องคอนโทรล ส่วนในเรื่องของการดูแลกิจวัตรประจำวันหรือดูแลอาการป่วยในรายที่มีอาการไม่มาก ก็จะเป็นหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่ รพ.สต ในพื้นที่จะทำงานร่วมกัน
            สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงก็อยากจะขอความร่วมมือในการสอดส่องดูแลผู้ป่วยร่วมกับเจ้าหน้าที่ หากพบว่ามีการหลบหนีการรักษาก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที และอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงจุดพักคอยที่อาจจะกลัวการติดเชื้อ ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ได้มีการประชาสัมพันธ์กันอย่างเนื่อง ถึงการแพร่ระบาดของโรงไวรัสโควิด-19 สามารถป้องกันได้โดยยึดหลัก D-M-H-T-T เพื่อป้องกันตนเอง ดังนี้ D – Social Distancing เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร เลี่ยงการอยู่ในที่แออัด M -Mask Wearing สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา H -Hand Washing ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ T – Testing การตรวจวัดอุณหภูมิและตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในกรณีที่มีอาการเข้าข่าย และ T – Thai Cha Na สแกนไทยชนะก่อนเข้า-ออกสถานที่สาธารณะทุกครั้ง เพื่อให้มีข้อมูลในการประสานงานได้ง่ายขึ้น
           นอกจากนี้ในส่วนของกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง ก็พบว่ายังมีจำนวนมากที่ยังปฏิเสธการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามอยากให้ผู้สูงอายุทุกคน และ กลุ่ม 7 โรคเสี่ยงเห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีน เพราะปัจจุบันนี้พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิดถึงวันละ 10,000 คน และเสียชีวิตถึงวันละ 100 ราย แต่สัดส่วนของการฉีดวัคซีนนี้พบว่าใน 1 ล้านคน จะมีปัญหาอยู่ที่ 3-4 คนเท่านั้น ก็อยากจะให้กลุ่มผู้สุงอายุและ 7 โรคเสี่ยงเห็นความสำคัญ รับการฉีดวัคซีนกันให้มากขึ้น ซึ่งจากสถิติผู้เสียชีวิตพบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง
Subscribe
Advertisement