อำเภอบางละมุงเคอร์ฟิววันแรก จนท.ตั้งด่าน ตรวจสกัดฝ่าฝืน ผู้ประกอบการ ประชาชน ให้ความร่วมมือ

         หลังจากมีราชกิจจานุเบกษาประกาศปรับมาตรการยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เพิ่มอีก 3 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และอยุธยา โดยให้ร้านอาหารเปิดถึง 2 ทุ่ม ห้ามนั่งกินในร้าน ให้งดภารกิจที่ต้องออกเดินทางออกนอกเคหสถานหรือที่พำนักโดยไม่จำเป็น รวมถึงมาตรการเคอร์ฟิวในตอนกลางคืน งดออกนอกเคหสถานช่วงเวลา 21.00-04.00 น.นั้น

            ล่าสุดเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์ภายในพื้นที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง พบว่าร้านค้า ร้านอาหาร หาบเร่แผงลอย ร้านสะดวกซื้อ ให้ความร่วมมือปิดให้บริการทั้งหมด มีเพียงสถานีน้ำมันบางจุดเท่านั้นที่ยังคงเปิดให้บริการอยู่ ส่วนประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือกลับเข้าเคหสถานตามคำสั่ง มีเพียงผู้ที่กำลังจะไปทำงานและเลิกงานเท่านั้น ที่ยังคงสัญจรไปมา นอกจากนี้บริเวณชายหาดพัทยาก็ไม่พบผู้คนออกมานั่งเล่นเหมือนดังเช่นเคย

          ส่วนบริเวณด้านหน้า สภ.บางละมุง ฝั่งขาเข้าสัตหีบ มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง นำโดยนายภราดร ชัยนภาพร ปลัดอำเภอบางละมุง ร.ต.อ.วิชัย อนันต์ทรัพย์ยิ่ง รอง สวป.สภ.บางละมุง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เมืองพัทยา ประจำจุดตรวจคัดกรองรถที่สัญจรเข้ามาในเขตพื้นที่ โดยสแกนตรวจสอบทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ขับผ่านเข้ามาภายในด่านขอตรวจสอบเอกสาร ที่ทำการขออนุญาตกับที่อำเภอบางละมุง หากมีถูกต้องก็จะปล่อยให้ผ่านไป หากพบว่าเป็นการฝ่าฝืนก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการจับกุม

           นายภราดร ชัยนภาพร ปลัดอำเภอบางละมุง ยังกล่าวอีกว่า นอกจากทางเจ้าหน้าที่จะตั้งด่านตรวจสกัดแล้ว ยังมีกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่ ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกตรวจตราผู้ที่ยังฝ่าฝืนคำสั่งมาตรการล็อกดาวน์ ห้ามออกจากเคหสถานในห้วงเวลา 21.00 น.ไปจนถึง 04.00 น. รวมทั้งเป็นการป้องกันเหตุอาชญากรรมด้วย

            นอกจากนี้ยังฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนให้ทราบโดยทั่วกันว่าระหว่างนี้เข้าสู่ช่วงที่ต้องช่วยกันรักษามาตรการ เพื่อหยุดเชื้อโรคร้ายที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก ขอให้ประชาชนช่วยกันปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากโรคระบาดหมดไปก็จะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติสุขเช่นเดิม