จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 8 ก.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึงได้รับแจ้งจากนางสาวจิตราภรณ์ บุญเทียน อายุ 23 ปี ว่า ตนเองถูกคนร้ายชิงทรัพย์ เหตุเกิดบนถนนสายโรงแป้งชลเจริญ – ศาลเจ้าพ่อเสือ ม.3 ต.หนองชาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.บ้านบึง จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน พ.ต.ท.พิพัฒน์ จ่างแก้ว พ.ต.ต.ชัยณรงค์ จิตต์สุนทร ร.ต.อ.สุชาติ พลคง ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 9 ก.ค. 64 นางสาวจิตราภณ์ บุญเทียน ยอมเปิดปากรับสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้สร้างเรื่องขึ้นมาว่าถูกคนร้ายชิงทรัพย์ โดยแจ้งว่ามีชายสองคนขี่รถ จยย.มาทำทีมาสอบถามว่ามีพัสดุส่งมายังเลขที่บ้านของคนร้ายหรือไม่ นางสาวจิตารภรณ์บอกว่าไม่มี และเล่าว่าคนร้ายแจ้งกับตนว่าที่ฝาท้ายรถที่ขับมีสิ่งของห้อยอยู่ ให้ตนเองลงไปดู จนกระทั่งถูกคนร้ายกระชากผมและดึงตัวลงไปข้างทาง พร้อมกับทำร้ายใช้มือตบและต่อยที่ใบหน้าจนใบหน้าปูดบวมปากแตก หลังจากนั้นบังคับให้ตนเองเปิดรถเอาเงินที่เก็บไว้ในรถก่อนที่จะขับขี่รถ จยย.หลบหนีไป พร้อมกับเปิดแมสปิดปากให้ดูร่องรอยถูกทำร้าย พบว่ามีแผลฉีกขาดที่มุมปากด้านขวา
ทางด้าน พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.บ้านบึง เปิดเผยว่า นางสาวจิตราภรณ์ ผู้กระทำความผิดที่ได้เข้ามาแจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน เนื่องจากพบข้อพิรุธหลายอย่าง ตำรวจได้ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริงไม่มีความเป็นไปได้ว่าจะถูกชิงทรัพย์
แต่มีหลักฐานการโอนเงินออกไปตามจำนวนที่หายไปคือยอด 2 หมื่นบาทจริงจากยอดเงินที่เก็บเงินปลายทางลูกค้า ทางตำรวจจึงได้ดำเนินคดีนางสาวจิตราภรณ์ ในข้อหาแจ้งความเท็จ ส่วนเงินที่หายไป ให้ทางต้นสังกัดแจ้งความเอาผิด ข้อหายักยอกทรัพย์ เตรียมส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
Advertisement
