รองนายกเมืองพัทยาลงดูพื้นที่เลี้ยงสุนัขจรจัดบ้านคลองใหญ่ ต.โป่ง หลังพบมูลนิธิสงวนชาติศรไกรไม่สามารถดูแลต่อได้เนื่องจากขาดสภาพคล่องทางการเงิน ด้านเมืองพัทยาเตรียมปรับแผน จับทำหมันปล่อยอยู่กับสังคม ส่วนที่มีอยู่กว่า 600 ตัวก็จะเลี้ยงดูกันจนกว่าจะตายจากกันไป พร้อมวอนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินทำร่มกันฝนให้กับสุนัข หลังพบปัจจุบันมีไม่เพียงพอ

         เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ที่บ้านคลองใหญ่ ต.โป่ง นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายสุรพล สงวนชาติศรไกร ประธานมูลนิธิสงวนชาติศรไกร และหน่วยงานเมืองพัทยาที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณบ้านคลองใหญ่ เพื่อร่วมสำรวจความเป็นอยู่ของสุนัขจรจัด ของเมืองพัทยากว่า 600 ตัว หลังจากที่มูลนิธิสงวนชาติศรไกรได้เข้ามาดูแลร่วมกับเมืองพัทยามานานหลายปีแล้ว ซึ่งที่นี่จะเป็นสถานที่ที่นำสุนัขจรจัดที่ทำร้ายนักท่องเที่ยวและสุนัขจรจัดที่ก่อเหตุรำคาญมาเลี้ยงไว้ที่นี่ จนล่าสุดหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ได้เข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่มานานกว่า 2 ปีแล้ว ทำให้ยอดบริจาคเงินในการช่วยเหลือสุนัขจรจัดเหล่านี้ของทางมูลนิธิหายไปเกือบ 100% โดยล่าสุดทางมูลนิธิได้ทำการส่งมอบสุนัขทั้ง 600 ตัวคืนเมืองพัทยา เนื่องจากแบกรับในส่วนของภาระตรงนี้ต่อไปไม่ไหว หลังจากที่พยายามในการระดมทุนในการเลี้ยงสุนัขทั้ง 600 ตัว กว่าปีที่ขาดการบริจาค ทางมูลนิธิได้จ่ายเงินในส่วนของค่าคนงานที่ดูแล 6-7 คนมาโดยตลอด มาในวันนี้ทางมูลนิธิไม่สามารถที่จะดูแลสุนัขทั้ง 600 ตัวต่อไปได้ จึงได้ทำเรื่องขอคืนสุนัขทั้งหมดให้กลับมาอยู่ในความดูแลของเมืองพัทยาต่อไป
        นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังจากมูลนิธิสงวนชาติศรไกร ได้ขอคืนสุนัขของเมืองพัทยาที่เคยอยู่ในความดูแลของมูลนิธิให้ทางเมืองพัทยากลับมาดูและเหมือนเดิมนั้น พบว่าทางเมืองพัทยาเองก็ได้ประชุมหารือในเรื่องของความเป็นไปได้และแนวทางในการดำเนินการต่อ ซึ่งในเบื้องต้นทางเมืองพัทยายังไม่สามารถที่จะสนับสนุนงบประมาณอะไรได้ คงต้องรอในส่วนของงบประมาณ ในปี 2565 ที่จะเริ่มในเดือนตุลาคม 2565 นี้ โดยใน 3 เดือนที่เหลือ ทางเมืองพัทยาก็คงจะต้องระดมทุนจากภาคเอกชน รวมถึงผู้ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีย์ รักสัตว์ ในการร่วมกันบริจาคเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายของคนงาน ที่มีทั้งหมด ประมาณ 7 คนที่ต้องดูแล ส่วนเรื่องของอาหารพบว่าไม่ได้ขาดแคลน เพียงแต่ต้องการเปิดรับบริจาคในส่วนของร่มกันฝนให้กับสุขนัขในคอก ซึ่งปัจจุบันมีไม่เพียงพอ โดยต้องการประมาณ 3 หลัง ขนาดประมาณ 6 X 10 เมตร หรือถ้าไม่สะดวกสามารถสมทบทุนได้ที่ 081-3155773
         ส่วนภาพรวมในการเป็นอยู่ของสุนัขจรจัดทั้งหมดนี้พบว่าอยู่กันแบบสบายๆ มีอาหารให้กินตามมื้อ ทุกวันอังคารจะมีสัตวแพทย์จากเมืองพัทยาเข้ามาทำการรักษาอาการป่วย ทำหมัน ฉีดยาเห็บหมัด และดูแลอาการป่วยของสุนัขที่บางตัวป่วยเป็นมะเร็ง ต้องได้รับยาคีโมทุกสัปดาห์ ซึ่งสุนัขที่นี่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่แออัด

         ส่วนแนวทางในการบริหารจัดการ พบว่าจากนี้ไปทางเมืองพัทยาจะเปลี่ยนแนวทางในกาจัดการสุนัขจรจัด โดยจะเน้นไปที่การตัดวงจรการเพิ่มจำนวนสุนัขจรจัดด้วยการทำหมันให้กับสุนัขจรจัดทุกตัว ซึ่งหลังทำหมันแล้วก็จะปล่อยให้สุนัขอยู่ในสังคมเดิม โดยให้คนในสังคมช่วยกันดูแล

          ทั้งนี้ในกรณีที่สุนัขตัวดังกล่าวไม่ก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญให้กับสังคม และไม่ทำร้ายนักท่องเที่ยว ซึ่งหากพบว่าสุนัขจรจัดตัวใดดุร้าย ก่อเหตุทำร้ายนักท่องเที่ยว ก็จะต้องจับไปเข้าคอก เพื่อไปอยู่ในที่ที่เหมาะสมต่อไป ส่วนหลังจากเดือนตุลาคมนี้ไปแล้ว เมืองพัทยาก็จะดำเนินใช้งบประมาณในการดำเนินการเลี้ยงสุนัขจรจัดเหล่านี้ได้ตามระบบต่อไป
Subscribe
Advertisement