จากกรณีที่ชาวบ้านภายในซอย 5 ธันวา หรือซอยสุขุมวิท 45 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้พบกับปัญหาโครงการระบบวางท่อระบบท่อระบายน้ำภายในซอย ซึ่งมีความเดือดร้อนอย่างหนัก กรณีที่ผู้รับเหมาโครงการไม่สามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามสัญญาที่กำหนด โดยโครงการนี้มีสัญญาสิ้นสุดไปตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2562 แต่กลับไม่ทำให้แล้วเสร็จ ปล่อยให้พื้นผิวจราจรถูกขุดเจาะทิ้งคาไว้นานนับปี จนชาวบ้าไนไม่สามารถใช้ประโยชน์ในการสัญจรไปมาได้ ทั้งๆ ที่เป็นชุมชนที่มีประชาชนพักอาศัยกันอยู่อย่างหนาแน่น ส่งผลให้สภาพภายในซอยมีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อ น้ำท่วมขัง มีเศษกองดินกองทรายสุมตลอดแนวถนน มิหนำซ้ำปัจจุบันเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนก็ยังทำให้เกิดน้ำท่วมขังไหลเข้าบ้านเรือนประชาชน ซึ่งโครงการนี้แม้จะมีการร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีหลายหน่วยงานลงพื้นที่มาตรวจสอบ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังพบสภาพปัญหาที่ยังคงเป็นอยู่เช่นเดิม
ล่าสุดวันนี้ (2 มี.ค.64) นายชาคร กัญจนะวัตตะ รองประธานสภาเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายธเนศ ศุภรสหัสรังสี และนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร สมาชิกสภาเมืองพัทยา ในฐานะตัวแทนฝ่ายนิติบัญญัติ พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างสุขาภิบาล และตัวแทนผู้รับเหมา ลงพื้นที่เข้าทำการสำรวจและตรวจสอบสภาพปัญหาของโครงการอีกครั้ง โดยครั้งนี้พบว่าโครงการมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80-90% แต่ยังคงติดปัญหาในเรื่องของการต่อเชื่อมระบบท่อและระบบไฟของสถานีสูบน้ำบริเวณปากทางเข้าซอยสุขุมวิท 45 เนื่องจากติดปัญหาเรื่องของระบบสาธารณูปโภค ได้แก่ เสาไฟฟ้าที่พบว่ากำลังมีการทรุดตัวลง และระบบท่อน้ำประปาที่ยังไม่มีการขยับแนวท่อเพื่อเปิดทางให้ระบบระบายน้ำต่อเชื่อมกับระบบท่อหลักของเมืองพัทยาบริเวณริมถนนสุขุมวิท ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการประสานงาน
นายชาคร กัญจนะวัตตะ รองประธานสภาเมืองพัทยา กล่าวว่า โครงการนี้สภาเมืองพัทยาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและลงพื้นที่มาดูกันหลายครั้งแล้ว ซึ่งทุกครั้งก็ได้เร่งรัดให้เมืองพัทยากำชับผู้รับเหมาให้ก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เพราะเป็นโครงการขนาดกลาง ในงบประมาณเพียง 7.7 ล้านบาท เพื่อวางท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 มม.จากภายในซอยออกมาต่อเชื่อมกับสถานีสูบน้ำ และระบายน้ำเข้าสู่ท่อหลัก เพื่อลดปัญหาน้ำท่วมขังภายในซอย แต่ก็พบว่าจนแล้วจนรอดโครงการก็มีปัญหาและก่อสร้างไม่แล้วเสร็จจนกระทั่งล่วงเลยสัญญามานานนับปี ซึ่งปัจจุบันทางผู้รับเหมาถูกเมืองพัทยาเรียกธรรมเนียมเปรียบเทียบปรับแล้วกว่า 12 ล้านบาท เกินมูลค่าโครงการก่อสร้างและสั่งให้ยกเลิกไปแล้ว แต่ก็มีการอุทธรณ์คำสั่งและขอมาดำเนินการให้แล้วเสร็จ โดยกล่าวอ้างเรื่องปัญหาของระบบสาธารณูปโภค และช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการต้องพิจารณากันต่อไป
ทั้งนี้จากการเจรจาและบรรยายสรุปจากผู้รับเหมารับแจ้งว่าได้ประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพื่อให้เข้ามาเคลื่อนย้ายแนวเสาแล้วภายใน 1 สัปดาห์ ขณะที่แนวท่อระบบของการประปาส่วนภูมิภาคนั้นได้ประสานไปแล้ว รอเพียงงบประมาณจากการประปา เพื่อมาทำการย้ายแนวท่อใหม่ ซึ่งคาดว่าปัญหาทั้งหมดจะถูกดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จได้ภายในช่วงสิ้นเดือนเมษายนศกนี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามทางสภาเมืองพัทยาจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเฝ้าติดตามและดูแลโครงการนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของเมืองพัทยาเป็นอย่างมาก
Advertisement
