(1 ก.พ.64) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงความคืบหน้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่จะเข้ามาจำนวน 2 บริษัท คือ วัคซีนแอสตราเซเนกา และซิโนแวต ซึ่งเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 รัฐบาลได้มีการเจรจาที่จะขอให้บริษัทซิโนแวต ส่งวัคซีนมาเพิ่มในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจรจาของประเทศจีน โดยตารางกำหนดเดิมการนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากแอสตราเซเนกา 50,000 โดส ฉีดที่สมุทรสาคร -แม่สอด-ชายแดนใต้ ล็อตพิเศษ ขณะนี้ประสบเล็กน้อย ซึ่งนายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างการเจรจากับทางอียู หลังได้มีการประกาศห้ามส่งออกวัคซีน
ทั้งนี้ประเทศไทยจะได้วัคซีนโควิด-19 ที่จะนำมาฉีดให้คนไทยซึ่งจะเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และจะเริ่มฉีดให้คนไทยในเดือนมีนาคม 2564 โดยคณะกรรมการกระจายวัคซีนจะมีการประชุม ในการคัดเลือกกลุ่มที่มีความเหมาะสมที่จะได้รับวัคซีนก่อน เช่น บุคลากรด่านหน้า ที่ปฏิบัติหน้าที่ที่มีความเสี่ยงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ที่ทำงาน และบุคคลที่มีความเสี่ยง ทั้งผู้สูงอายุ และบุคคลที่หากติดเชื้อโควิด-19 จะเป็นอันตรายต่อชีวิต หรือผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในหลาย ๆ โรค หลังจากนั้นจึงจะนำมาฉีดให้กับบุคลทั่วไปตามลำดับ
อย่างไรก็ตามไม่อยากให้ประชาชนคาดหวังว่ามีวัคซีนแล้วสถานการณ์โควิด-19 จะหายไปทันที ด้วยปัจจัยของจำนวนความต้องการของวัคซีนที่จะได้รับมา รวมถึงการกระจายในการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยทุกคน จะต้องอยู่ภายใต้การบริหารจัดการที่ดี การฉีดแต่ละครั้งต้องดูว่ามีผลอะไรกับบุคลที่ได้รับวัคซีนบ้างในระยะเวลา 30 นาที ต่อ 1 คน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอยุ่ภายใต้การบริหารจัดการของกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้คณะกรรมการบริหารวัคซีนแห่งชาติ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยต่ออีกว่า ส่วน 5 จังหวัดควบคุมสูงสุดเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในกลุ่มต่าง ๆ ก็อาจจะได้รับวัคซีนก่อนจังหวัดอื่น ด้วยเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ทั้งนี้อยากจะให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลจะหาทุกวิถีทางที่จะนำวัคซีนที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่มีความเหมาะสมมาให้กับคนไทย
Advertisement
