นายชัยรัตน์ รัตโนภาส นายกสมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออก เปิดเผยว่า สถานการณ์ต่าง ๆ ในขณะนี้ถือว่าดีขึ้นมาก หลังจากการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ภาครัฐดำเนินมีประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุดกรุงเทพมหานคร ได้ผ่อนคลายปลดล็อกอีก 13 สถานที่ รวมไปถึงกลุ่มสปาและร้านนวด ตรงนี้แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งในส่วนของของทางสมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออกก็ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ หลังจากทางสมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออก ได้ลงนามร่วมกับภาคอุตสาหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวอื่นรวม 8 องค์กร เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีพิจารณาการช่วยเหลือเยียวยาไปแล้วนั้น ขณะนี้ก็ได้มีความพร้อมในเรื่องมาตรการที่ปฏิบัติตามอย่างเต็มที่เพื่อรอคำสั่งจากทางจังหวัด แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก ซึ่งคงต้องรอภาพรวมของทั้งจังหวัด ซึ่งเชื่อว่าในประมาณสิ้นเดือนมกราคมนี้ หลังจากประเมินสถานการณ์ดีขึ้น ส่วนกลางอาจพิจารณาเปลี่ยนสีพื้นที่ของการแพร่ระบาด และตอนนั้นเชื่อว่าจะมีความชัดเจนกว่านี้
นายกสมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออก กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั้งในครั้งแรก และระลอกที่ 2 ทำให้ผู้ประกอบการเองมีการเฝ้าระวังพื้นที่ของตนเองมาโดยตลอด เพราะไม่อยากให้ไปอยู่ในประวัติไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ ตรงนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ผู้ประกอบการสปาและเวลเนสต่างเข้าใจในผลกระทบทางความรู้สึกของผู้มาใช้บริการ จึงต้องมีการระวังป้องกันสถานประกอบการของตนเองกันอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม แนวทางการทำงานของสมาคมสปาและเวลเนสภาคตะวันออกนั้น ได้ร่วมกับสมาชิกผู้ประกอบการสปาและเวลเนสทั้งประเทศ ทั้งเป็นสมาคมและชมรมจากจังหวัดต่าง ๆ อาทิ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ขอนแก่น กระบี่ และภูเก็ต โดยทำงานกันในภาพรวมของสมาพันธ์สมาคมสปาและเวลเนสแห่งประเทศไทย ที่มีการประสานข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการประเภทเดียวกันนี้ได้รับทราบถึงแนวทางต่าง ๆ รวมทั้งแนวทางปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มข้นและเป็นภาพรวม จึงทำให้รับทราบความคืบหน้าต่าง ๆ ได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งก็ได้แต่รอลุ้นว่าในส่วนของจังหวัดชลบุรีจะได้คลายล็อกเฉกเช่นกรุงเทพมหานครในเร็ววันนี้
Advertisement
