จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ค ณัฐชาดา เก็บกลาง โพสต์ข้อความ ” โควิด ร้านปิดชั่วคราว ขายของไม่ได้ ยังจะมีเรื่องมาซ้ำเติมตลอดเวลา…ชีวิต
ปลั๊กไฟตู้สต็อกไอติมมีปัญหา ไฟตู้ดับตอนกลางคืน เช้ามาไอติมละลายไป 3 ตู้ใหญ่ๆ 1,300 กว่าแท่ง กับถ้วยอีก 500 ถ้วย แม่งจะแย่อะไรขนาดนี้วะ
ใครผ่านมาทางพัทยา แวะเอาไอติมไปกินนะคะ ไอติมละลายเสียรูปทรง เราไม่ขายให้ลูกค้า เอากลับไปทำใหม่ก็ไม่ได้ แจก กับ ทิ้งอย่างเดียวค่ะ ใครมาหากล่องโฟมใหญ่ๆ มาด้วยนะคะ น้ำแข็งแห้งสำหรับแช่ไอติมเดินทางไกล จ่ายเองด้วยค่ะ ไอติมฟรีค่ะ
ปิดการแจกจ้าาาา หมดแล้วค่ะ ขอบคุณทุกๆ คนที่ไม่รังเกียจไอติมที่ละลาย เอาไปแจกเด็กๆ แจกเพื่อนบ้าน พี่ๆ น้องๆ เห็นทุกคนมีรอยยิ้ม ก็ดีใจปลื้มปริ่มแล้วค่ะ ขอบคุณทุกๆ รอยยิ้ม และกำลังใจค่ะ” จนมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด วันที่ 22 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังร้านอาหาร บราวเฮ้าส์ เยอรมัน – ไทย มาร์เก็ตติ้ง ถ.พัทยาสายสอง เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พบ น.ส.ณัฐชาดา เก็บกลาง อายุ 37 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ตนเองและสามีเปิดร้านอาหารดังกล่าวมากว่า 9 ปี และเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายไอศกรีม โฮมเมด เจเรดโต้ ยี่ห้อ Hello icecream ส่งขายในเมืองพัทยาจำนวนกว่า 150 แห่ง ภายหลังเกิดวิกฤตโควิด-19 รอบแรก ทางร้านได้ปิดบริการไปจำนวนกว่า 8 เดือน และเมื่อเข้าสู่สภาวะปกติ จึงกลับมาเปิดได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น ก็เกิดวิกฤตโควิดระลอก 2 ส่งผลให้ต้องจำใจปิดร้านอาหารลงอีกครั้ง
ส่วนไอศกรีมก็ไม่สามารถจำหน่ายได้ เนื่องจากร้านและโรงแรมในเมืองพัทยาปิด จึงต้องส่งคืนตู้ไอศกรีมกลับคืนร้าน อีกทั้งร้านต้องเลิกจ้างพนักงานอีกจำนวน 12 คน ค่าเช่าร้านเดือนละ 100,000 บาท ก็ไม่สามารถชำระได้ ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก มีหนำซ้ำยังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วง 10.00 น. ของเมื่อวานนี้ (21 ม.ค.) ตนซึ่งพักอยู่ชั้นบนของร้านได้ลงมาตรวจสอบร้านตามปกติ พบว่า มีน้ำหยดลงมาที่ห้องอาหารชั้นล่าง จึงไปตรวจดูที่ห้องสต็อกไอศกรีมที่ชั้น 2 ผลปรากฎว่าตู้ไอศกรีมจำนวน 3 ตู้ ไฟเกิดดับ ส่งผลให้ไอศกรีมจำนวน 1,300 แท่ง และอีก 500 ถ้วย ละลายเสียหาย รวมมูลค่ากว่า 60,000 บาท ตนจึงโพสต์เฟสบุ๊คระบายความอัดอั้นตันใจถึงความโชคร้ายที่มาซ้ำเดิมในช่วงวิกฤตโควิด และขอบริจาคไอศกรีมให้แก่เพื่อนๆ ในเฟสบุ๊คไปรับประทานหรือแจกจ่ายโดยไม่คิดเงิน ซึ่งภายหลังจากโพสต์ไม่นานมีเพื่อนในเฟสบุ๊คจำนวน 40-50 ท่าน มารับไอศกรีมไป บ้างก็นำไปทานเอง บ้างก็นำไปแจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน หรือบริจาคให้แก่เด็กๆ ในมูลนิธิต่างๆ จนไอศกรีมหมดภายใน 1 ชม.
ทั้งนี้ ทำให้ตนรู้สึกประทับใจ และรู้สึกปลื้มใจ ถึงจะโชคร้ายไอศกรีมละลายไม่ได้ขายหรือจำหน่าย แต่ก็มีโอกาสได้แบ่งปันกับทุกคน
Advertisement
