เมียร้องกองปราบตามจับเทศกิจปืนโหดยิงผัวดับกลางงานลอยกระทง
เมื่อเวลา09.30 น. วันที่ 18 ธ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นางอารี บุญสุภาพ อายุ 38 ปี นายประสิทธิ์ พุ่มพวง หรือ ปุ้ย อายุ 29 ปี ทั้งสองเป็นภรรยาและเพื่อนรุ่นน้องของ นายเกษมศักดิ์ สวัสดิรักษา อายุ 39 ปี ผู้เสียชีวิตจากการถูกนายกิตติศักดิ์ หรือ หนึ่ง สุทธิดี อายุ 37 ปี อดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลท่าเรือ จ.อยุธยา ยิงจนเสียชีวิตกลางงานเทศกาลลอยกระทงหน้าเทศบาลท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สมชาย รอดแป้น รอง สว.กก.2 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้ช่วยติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิด หลังคดีผ่านมานานนับเดือนแต่กลับยังไม่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายได้
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุนายกิตติศักดิ์ ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ ได้เข้ามาหยอกล้อด้วยการดึงกางเกง ตนไม่ชอบจึงขอให้หยุดกระทำ ทำให้นายกิตติศักดิ์ ไม่พอใจต่อว่าด่าทอพร้อมกับใช้มือตบเข้ามาที่บ้องหู ตนเกรงว่าปัญหาจะบานปลายเลยโทรไปหา นายเกษมศักดิ์ ผู้ตายให้มาช่วยเคลียร์ปัญหา แต่เมื่อมาพูดคุยและเคลียร์กันเสร็จ ผู้ก่อเหตุกลับชักอาวุธปืน 9มม. เดินอ้อมมายิงนายเกษมศักดิ์ 8 นัด จนเสียชีวิต ทั้งนี้ยืนยันว่า ตนกับผู้ตาย รู้จักกับผู้ก่อเหตุจริงแต่ไม่ได้สนิทอะไร และไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนี้
นางอารี กล่าวว่า ยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว และตอนนี้ครอบครัวเดือดร้อนมาก ที่ผ่านมาแม้จะมีการออกหมายจับนายกิตติศักดิ์ ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา พยายามฆ่า และ พกพาปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วก็ตาม แต่คดีดังกล่าวผ่านมานานร่วมเดือนกลับยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ จึงตัดสินใจเดินทางมายังกองปราบฯในวันนี้เพื่อร้องขอความเป็นธรรม
นายรณรงค์ กล่าวว่า สำหรับเบาะแสนายกิตติศักดิ์ ขณะนี้ทราบว่าหลังเกิดเหตุหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ลพบุรี โดยไปอาสัยอยู่กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เพราะนายกิตติศักดิ์ เองนั้นก็ถือเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน รวมถึงมีความสนิทสนมกับตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่จึงรู้วิธีหลบหลีกการแกะรอยติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เป็นอย่างดี
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา พร้อมกับประสานชุดสืบสวน ช่วยติดตามการจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
