กองปราบเปิดยุทธการ “ไซเลนเซอร์” บุกค้น 41 จุดทั่วประเทศ ล้างบางปืนเถื่อนป้องปรามเหตุอาชญากรรมก่อนเลือกตั้ง อบจ. ทั่วประเทศ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม รอง ผกก.4 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ตามยุทธการ “ไซเลนเซอร์” เพื่อกวาดล้างจับกุมเครือข่ายลักลอบค้าอาวุธปืนเถื่อน หลังมีการกระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั่วประเทศจำนวน 41 จุด
จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 31 ราย อาวุธปืนของกลาง รวม 38 กระบอก แบ่งเป็นอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาว ขนาด .22 รวม 30 กระบอก อาวุธปืนแก๊ป 1 กระบอก ปืนยาวอัดลม อีก 5 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนชนิดต่างๆจำนวนรวม 565 นัด และยุทธภัณฑ์จำพวกท่อเก็บเสียง หรือ ไซเลนเซอร์ 7 ชิ้น รวมถึงยาเสพติดอีกจำนวนหนึ่ง
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากใกล้เข้าสู่ช่วงเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิก อบจ.ซึ่งจะมีการเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 20 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ ทางพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงสั่งการมายังกองปราบฯ ให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน หรือ กลุ่มบุคคลที่จะก่อเหตุร้ายในช่วงนี้ เพื่อป้องปรามเหตุอาชญากรรมในช่วงเลือกตั้ง ทางกองปราบจึงได้กระจายกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนไปพบเครือข่ายลักลอบค้าอาวุธปืนเถื่อนออนไลน์กลุ่มหนึ่ง ที่มีการจัดตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อจัดหาหรือจัดทำให้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ มาขายให้กับสมาชิกที่อยู่หลายร้อยคนทั่วประเทศ จากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับเจ้าของกลุ่มที่เป็นผู้ค้าและสมาชิกที่เป็นลูกค้าต่างๆ จนนำไปสู่การจัดทำยุทธการ “ไซเลนเซอร์” นี้ขึ้นมา โดยจากการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายต่างๆทั่วประเทศจำนวน 41 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 31 ราย พร้อมกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมาก
พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ กล่าวว่า สำหรับอาวุธปืน ที่ทำการตรวจยึดมานั้นจากการตรวจสอบพบว่าสามารถใช้งานได้จริง นอกจากนี้ยังพบว่านอกจากจะมีการรับผลิตอาวุธปืนไทยประดิษฐ์แล้วนั้น เครือข่ายดังกล่าวยังมีการรับผลิตท่อเก็บเสียง หรือ “ไซเลนเซอร์” ยุทธภัณฑ์ส่วนเสริมในการเพิ่มประสิทธิภาพของอาวุธปืนอีกด้วย ซึ่งเกี่ยวกับ “ไซเลนเซอร์”นี้ เป็นที่ทราบกันดีเราเคยมีบทเรียนในเรื่องนี้เมื่อครั้งเหตุคนร้ายบุกชิงทองที่ จ.ลพบุรี
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ต้องหาทั้ง 31 รายที่จับกุมได้นั้นหลังจากนี้จะทำการตรวจสอบขยายผลเกี่ยวกับประวัติอย่างละเอียด เพื่อดูความเชื่อมโยงว่าเคยก่อเหตุหรือมีประวัติเกี่ยวข้องกับกลุ่มมือปืนรับจ้าง กลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือไม่ เพื่อเป็นการป้องปรามเหตุอาชญากรรมในช่วงเลือกตั้งท้องถิ่น
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 31 รายนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. จำนวน 5 ราย และนำตัวส่งตำรวจท้องที่อีกจำนวน 26 ราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
