เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ธันวาคม 2563 นายสุนนท์ แสวงธีระ อายุ 57 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.ณัชพล แสงสี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าได้ถูกคนร้ายลักทรัพย์โทรศัพท์ รุ่นวีโว่ ราคาประมาณ 8,000 บาท และเบี้ยวค่าซ่อมรถจักรยานยนต์ เป็นเงิน 13,500 บาท เหตุเกิดที่ซอยเกษตรสิน 7 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
โดยนายสุนนท์ แสวงธีระ อายุ 57 ปี เปิดเผยว่า ตนเองเปิดอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์อยู่ภายในซอยเทพประสิทธิ์ 17 ก่อนหน้านี้ได้มีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปี ทราบชื่อคือนายตั้ม ขี่จยย.ฮอนด้า เวฟ 110 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาติดต่อให้ตกแต่งรถใหม่ให้ทั้งคัน เปลี่ยนสีรถใหม่จากสีเดิมคือสีดำเป็นสีแดง ล้อแต่งสีแดง โช๊คแต่งสีแดง แปลงใส่เบรกดิสหน้า หลังจากทำเสร็จนายตั้มได้มาติดต่อรับรถ แต่ให้ตามไปเก็บเงินที่ซอยเกษตรสิน 7 เมื่อไปถึงนายตั้มได้ยืมโทรศัพท์ ทำทียืนคุยกับพ่อ ก่อนจะเดินหายลับตาไป ตนเองรู้สึกผิดสังเกตจึงเดินตามหา
เมื่อสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัย จึงทราบว่านายตั้มได้ปีนกำแพงหนีไปพร้อมกับโทรศัพท์แล้ว ตนจึงรีบขี่ จยย.กลับมาที่อู่ ปรากฎว่านายตั้มได้มาเอารถกับนาง ศรีวรรณ ศิริเจริญ อายุ 63 ปี ภรรยาที่เฝ้าอยู่ร้านไปแล้ว โดยนายตั้มได้ออกอุบายว่าได้จ่ายเงินค่าซ่อมนายสุนนท์ ฝ่ายสามีไปแล้ว นางศรีวรรณพยายามถ่วงเวลาให้รอสามีก่อน แต่นายตั้มไม่ยอม จะเอารถกลับไปเลยทั้งที่ไม่มีกุญแจ แล้วให้วินจยย.รับจ้างให้ดันรถไป จากนั้นไม่นานนายสุนนท์ก็ขี่ จยย.มาถึงที่ร้าน ไม่พบรถจยย.ของนายตั้ม ก็มั่นใจเลยว่าถูกนายตั้มหลอกเอารถไปแล้วโดยที่ยังไม่ได้จ่ายค่าซ่อมแม้แต่บาทเดียว แถมยังขโมยโทรศัพท์มือถือไปอีก 1 เครื่อง ทำให้ทั้งสองคนต้องหลั่งน้ำตาที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ซบเซา เมื่อตั้งสติได้จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความดังกล่าว
นอกจากนี้ยังได้ฝากเตือนผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ อย่าเชื่อใจใครง่ายๆ อย่าให้ความใจดีมาทำร้ายตัวเอง ให้ระมัดระวังทรัพย์สินให้ดี นอกจากนี้ยังฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับคนอื่นได้อีก
Advertisement