เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.63 ซึ่งตรงกับวันสิ่งแวดล้อมไทย ประจำปี 2563 องค์กรสื่อสารด้านการขยะ Rubbish Communication องค์กรการกุศลเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม ที่ได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมและสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแดวล้อมในเมืองท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่อง ได้จัดกิจกรรมทำความสะอาดบริเวณคลองนกยาง ซึ่งถือได้ว่าเป็นป่าชายเลนผืนสุดท้ายของเมืองพัทยา ด้วยการเชิญชวนเด็ก ๆ และเยาวชนในชุมชนใกล้เคียงมาร่วมกันทำกิจกรรมโดยใช้เวลาทั้งสิ้นกว่า 3 ชม.
น.ส.สุภาดา วงศ์ซิ้ม ประธานองค์กรสื่อสารด้านการขยะ Rubbish Communication เปิดเผยว่า ตลอดปีที่ผ่านมาทางองค์กรฯ ได้จัดกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วยการมุ่งเน้นการลดปริมาณขยะกันอยู่บ่อย ๆ อยู่แล้ว แต่เนื่องในวันนี้เป็นวันสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม จึงอยากให้ประชาชน ชาวบ้านที่ผ่านไปมาได้ตระหนัก ตื่นตัว ออกมาร่วมแรงร่วมใจกันคนละเล็กคนละน้อย จัดเก็บและทำความสะอาดสถานที่บริเวณบ้านและชุมชนของตนเอง
ทั้งนี้ จากการดำเนินการที่ผ่านมาในปีนี้ได้เกิดความเป็นรูปธรรมของการทำงานขององค์กรฯ อย่างชัดเจนเพราะเห็นได้ว่าขยะในชุมชนลดลงในปีนี้ หลังได้ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี ทำให้เห็นว่าชุมชนให้ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ด้วยการให้ความร่วมมือในกิจกรรมเป็นอย่างดี การรณรงค์รักษาความสะอาดในทุกรูปแบบถือว่าดีทั้งหมด แต่ทั้งนี้ต้องทำร่วมกันไป ทั้งเรื่องการคัดแยกขยะและการรักษาความสะอาดก็ต้องทำเหมือนเดิม
แต่ในส่วนที่สามารถเพิ่มเติมในการลดปริมาณขยะหรือสามารถจัดเก็บขยะได้ง่ายยิ่งขึ้นคือการใช้พลาสต์พืช ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทดแทนพลาสติกของเครือข่ายองค์กรฯ ที่นำมาใช้ร่วมกับชุมชน ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะเป็นขยะแต่ก็สามารถย่อยสลายได้ในระยะเวลา 3-6 เดือน ซึ่งอยากฝากถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้ช่วยลดการใช้พลาสติกหรือโฟม เพราะไม่ควรสร้างขยะเพิ่มในกิจกรรมก็จะช่วยให้การทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเป็นไปได้อย่างดีเช่นกัน
ประธานองค์กรสื่อสารด้านการขยะ กล่าวต่อว่า คลองนกยางถือว่าเป็นคลองป่าชายเลนที่มีนกหลากหลายชนิด ซึ่งถือได้ว่ามีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติอยู่ และด้วยเป็นพื้นที่ป่าชายเลนผืนสุดท้ายของเมืองพัทยา จึงสมควรที่จะช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติของสถานที่แห่งนี้ไว้ เป็นพื้นที่ให้เด็ก ๆ ในชุมชนได้ทำกิจกรรม อยากฝากให้ชาวบ้านในชุมชนละแวกนี้ช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะลงใต้ถุนบ้านของตัวเอง เพราะจะทำให้คลองสกปรกและเสื่อมโทรม ถ้าหากไม่ช่วยกันเก็บแล้วก็อย่าทิ้ง
อย่างไรก็ดี ปีนี้ก็ถือว่าองค์กรฯ ประสบความสำเร็จด้านการรณรงค์รักษาความสะอาดในเมืองพัทยาต้องขอขอบคุณชาวบ้านทุกคนที่ให้ความร่วมมือ สื่อสารมวลชน สื่อประชาสัมพันธ์และแอดมินแฟนเพจข่าวต่าง ๆ ที่ช่วยกันประชาสัมพันธ์ในกิจกรรมและเรื่องราวดี ๆ ขององค์กร และในปีหน้าก็จะมีกิจกรรมสร้างสีสันความน่าสนใจและสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมในรูปแบบต่าง ๆ ต่อไป ซึ่งต้องคอยติดตามกัน และต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่หยิบยื่นโอกาสให้ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมมา ณ โอกาสนี้ด้วยเช่นกัน
Advertisement
