มีรายงานว่าหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีนโยบายให้ดำเนินการจัดระเบียบท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ขึ้นใหม่เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว และทวงคืนพื้นที่สาธารณะเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งยังเป็นการปรับสภาพภูมิทัศน์เพื่อรองรับการจัดกิจกรรมสวนสนามทางเรือนานาชาติ ในช่วงเดือน พ.ย. 2560 ที่ผ่านมา
โดยโครงการนี้สภาเมืองพัทยาได้ทุ่มงบประมาณกว่า 95 ล้านบาท เพื่อทำการปรับปรุง โดยแยกออกเป็นหลายโครงการ อาทิ โครงการปรับปรุงอาคารท่าเทียบเรืองบประมาณ 13 ล้านบาท โครงการปรับภูมิทัศน์โดยรอบพื้นที่ 10 ไร่ งบประมาณ 81 ล้านบาท รวมทั้งการก่อสร้าง “ลานน้ำพุเต้นระบำ” เพื่อเป็นการสร้างสีสันและทำเป็นแลนด์มาร์คด้านการท่องเที่ยวแห่งใหม่ ซึ่งสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว
ต่อมานายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รองปลัดเมืองพัทยา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบสภาพความเสียหายของพื้นที่บริเวณโดยรอบ หลังทราบว่าปัจจุบันมีพื้นที่อาคารรองรับผู้โดยสาร รวมถึงลานเอนกประสงค์ และจุดแลนด์มาร์คใหม่อย่าง “น้ำพุเต้นระบำ” มีสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างมากจนไม่สามารถใช้การได้ โดยได้ รับคำสั่งโดยตรงจากนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ให้เร่งตรวจสอบและแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยเร็วนั้น
กรณีดังกล่าวได้มีการแผนในการย้ายแนวกั้นทางเดินรถบริเวณหน้าอาคารคอนโด Water Front ซึ่งเป็นจุดจอดรถรับส่งผู้โดยสาร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการขยายพื้นที่การจราจรสำหรับทำจุดจอดรถบัส โดยจะเปิดช่องขยายผิวถนนขนาดความกว้าง 5 เมตร ยาว 50 เมตร เพื่อขยายเลนเพิ่ม ลดความแออัดด้านการจราจร และเป็นจุดรับส่งที่ชัดเจนไม่กีดขวางการจราจร ขณะที่จากการตรวจสอบบริเวณลานเอนกประสงค์พบว่ามีรอยร้าวปริแตกเป็นจำนวนมาก ส่วนที่ลานทางเดินเท้าบริเวณด้านหลังลานน้ำพุที่ติดกับแนวชายหาด ก็มีสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก ด้วยขาดการบำรุงรักษา จนมีลักษณะหักเป็นหลุมขนาดต่างๆ จำนวนมากตลอดแนวยาวกว่า 100 เมตร ทั้งนี้ทางเมืองพัทยามีแผนที่จะให้เจ้าหน้าที่เร่งแก้ไขทันทีโดยจะปรับเปลี่ยนเป็นทางเดินเป็นแบบ ค.ส.ล.เพื่อให้เกิดความทนทานและสวยงามกว่าเดิม ขณะที่ “ลานน้ำพุเต้นระบำ” ที่เมืองพัทยาทุ่มงบประมาณลงไปจัดทำในการสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ด้านการท่องเที่ยวนั้น พบว่าระบบปั๊มน้ำใต้ลานน้ำพุ รวมทั้งไฟส่องสว่าง และท่อน้ำเกิดความชำรุดเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งจะมีการเร่งประสานผู้รับจ้างที่มีความเชี่ยวชาญให้เข้ามาซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ ที่อาคารรองรับผู้โดยสารแห่งใหม่ บริเวณอาคารท่าเทียบเรือ ซึ่งหลังก่อสร้างแล้วเสร็จแต่ยังไม่มีการใช้งานหรืออนุญาตให้หน่วยงานใดเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ แต่อุปกรณ์หลายอย่างมีความชำรุดอย่างมาก ตั้งแต่ฝ้าเพดาน ห้องปฏิบัติการ ระบบไฟ สุขภัณฑ์ และระบบปั๊มน้ำหลัก จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทำการประมาณการงบประมาณในการซ่อมแซมเพื่อเสนอต่อผู้บริหารในการแก้ไขเร่งด่วนต่อไป เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์และมีสภาพที่พร้อมใช้งานอีกครั้ง
มีรายงานว่าล่าสุดจากการลงพื้นที่ตรวจสอบของผู้สื่อข่าววันนี้ (23 ต.ค.63) หลังจากที่ผ่านการตรวจสอบของเมืองพัทยามานานกว่า 2 อาทิตย์แล้ว พบว่าปัญหาหลายด้านที่มีการตรวจสอบพบยังไม่มีการพิจารณาอนุมัติ หรือแก้ไขให้กลับมาอยู่ในสภาพใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแต่อย่างใด โดยเฉพาะทางเดินเท้าริมชายหาด ลานน้ำพุเต้นระบำ พื้นลานเอนกประสงค์ รวมทั้งอุปกรณ์ที่มีความชำรุดเสียหายบริเวณภายในอาคารโดยสาร ขณะที่ในช่วงเวลานี้ซึ่งถือเป็นวันหยุดยาวมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการเพื่อไปท่องเที่ยวยังชุมชนเกาะล้านเป็นจำนวนมาก แต่สภาพของพื้นที่ในการรองรับยังไม่ได้รับการปรับปรุงหรือแก้ไขให้กลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แต่อย่างใด
Advertisement
