จากกรณีที่เมื่อกลางดึกของวันที่ 3 ตุลาคม 2563 ได้เกิดฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ติดต่อกันยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้ถนนทั้งเส้นหลักหลายจุด มีปริมาณน้ำเอ่อขึ้นท่วมขังสูงตั้งแต่ 10-80 เซนติเมตร สร้างความเสียหายให้กับรถที่สัญจรผ่านไปมา รวมไปถึงบริเวณหาดทรายที่ปรับภูมิทัศน์ให้สวยงามเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ก็ได้ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนได้รับความเสียหายเช่นกัน
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 3 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหมู่บ้านหลังวัดหนองอ้อ กลางเมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับรายงานว่าได้รับผลกระทบอย่างหนักหลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนกว่า 10 หลังคาเรือนที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีปริมาณน้ำท่วมสูงกว่า 70 เซนติเมตร มิหนำซ้ำกำแพงยังพังถล่ม ทำให้ทรายและมวลน้ำทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ต้องยอมทิ้งข้าวของหนีเอาชีวิตรอด บางหลังโชคดีได้สร้างแนวกั้นสูงเพื่อป้องกันน้ำ แต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานปริมาณน้ำไว้ได้ มวลน้ำได้ล้นเข้าท่วมเข้าไปในตัวบ้าน ทำให้ข้าวของได้รับความเสียหายหลายรายการ
จากการตรวจสอบพบว่าบ้านเลขที่ 80/99-80/100 และตลอดแนวบ้านใกล้เคียง กำแพงด้านหลังตัวบ้านพังถล่มจากแรงดันของน้ำและทราย ทำให้กระแสนำพัดทรายเข้ามาในตัวบ้านสูงกว่า 30 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อมเมืองพัทยา ร่วมกับชาวบ้านต้องช่วยกันลำเลียงทรายออกจากตัวบ้าน และเก็บกู้ทรัพย์สินที่ถูกทรายกลบทั้งหมดออกมา บางห้องยังพบว่ามีน้ำท่วมขังอยู่ ชาวบ้านก็ช่วยกันวิดน้ำออก เพื่อที่จะได้พักอาศัยต่อ
สอบถามชาวบ้านทราบว่าในช่วงที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักนั้น เป็นช่วงที่ทุกหลังคาเรือนนอนหลับพักผ่อน แต่ก็ต้องผวาตื่นขึ้นมาเพราะกลัวน้ำจะท่วมเข้าบ้าน แต่ก็ไม่สามารถที่จะย้ายของออกมาได้ เพราะกระแสน้ำทะลักเข้ามาเร็วมาก และยังมีปริมาณที่เยอะเกินกว่าที่จะระบายได้ทัน ได้แต่พากันหนีเอาตัวรอดเท่านั้น ทิ้งข้าวของทรัพย์สินให้จมอยู่ใต้น้ำและกองทราย ซึ่งก็ยังได้อัดคลิปวินาทีที่น้ำและทรายทะลักเข้าบ้านมาเปิดเผยอีกด้วย เป็นช่วงวินาทีที่ทุกคนตื่นกลัวอย่างมาก เพราะปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าจะลดลงแม้แต่น้อย พร้อมกล่าวตัดพ้อท้อแท้ เพราะตกอยู่ในช่วงได้รับผลกระทบวิกฤตโควิด-19 แล้วยังมาเจอปัญหาน้ำท่วมข้าวของเสียหายซ้ำเติมอีก ซึ่งปัญหาน้ำท่วมนั้นจะเจอถึงปีละ 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้ได้รับผลกระทบหนักสุด เพราะกำแพงด้านหลังทนแรงดันของกระแสน้ำและทรายไม่ไหวจึงถล่ม ก่อนที่น้ำจะทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านภายในซอยอรุโณทัย พัทยา ต.หนองปรือ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่แอ่งกระทะได้มีมวลน้ำไหลเข้าท่วมขังสูงกว่า 30 เซนติเมตร ทำให้ข้าวของได้รับความเสียหายเช่นกัน จึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงผู้ที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้เข้าช่วยเหลือด้วย
Advertisement
