คืบหน้า สาวหลอกหนุ่มดาวน์รถแล้วเชิดรถหนี จนมีผู้เสียหายแจ้งความจำนวนมาก ตำรวจเผยอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องศาล

              ตามที่นายกันตพัฒน์ ไม้เกตุ อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางไปตรวจสอบกรณีที่ทราบข่าวว่า น.ส.บุษราคัม เสาร์ทอง หรือหมวย ได้เคยหลอกหนุ่มๆ ให้ออกรถกระบะและถูกหลอกมาแล้วมากกว่า 10 ราย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจาก พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง หัวหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเสม็ด เนื่องมาจากนายกันตพัฒน์เข้าไปเล่นแอพพลิเคชั่นหาคู่ และได้ความพึงพอใจกับ น.ส.บุษราคัม และออกไปรับประทานอาหารด้วยกัน หลังจากนั้นอ้างว่าติดแบล็คลิสต์ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ จึงอยากให้ออกรถกระบะให้ทีโดยจะจ่ายค่าดาวน์ให้ หลังจากนั้นจะผ่อนเอง จึงหลงเชื่อและไปออกรถกระบะฟอร์ดสีขาว ป้ายแดง ย-3974 กรุงเทพฯ ที่ห้างสรรพสินค้าโลตัสพลัสมอลล์ อมตะ ชลบุรี โดยหญิงสาวไปรับรถแต่เพียงผู้เดียวเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก จนต่อมาทราบข่าวว่า น.ส.บุษราคัมได้มีการหลอกหนุ่มๆ ให้ออกรถไปแล้ว 10 กว่าคัน แต่หญิงสาวเอารถไปหมดและทุกคนต้องผ่อนรถเอง โดยไม่มีรถอยู่ในความครอบครอง จึงได้ไปแจ้งความที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมาตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
            ล่าสุด วันที่ 26 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามความคืบหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเสม็ด ทราบว่า น.ส.บุษราคัม ยังมาติดต่อกับตำรวจตลอดเวลา เนื่องจากมีผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีจำนวนมาก ซึ่งเมื่อประมาณเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา น.ส.บุษราคัมได้หลอกหนุ่มกว่า 10 ราย ให้ดาวน์รถยนต์แล้วชิ่งหนีหาย โดยมีการแจ้งความไว้ 4 โรงพักในจังหวัดชลบุรี ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือ พรบ.คอมพิวเตอร์
              จากการเปิดเผยของ พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง รองผู้กำกับสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเสม็ด ได้เปิดเผยถึงในคดีที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเอาผิด ไว้จำนวน 5 รายว่า ในเรื่องของคดี ทางตำรวจอยู่ในระหว่างทำสำนวนส่งให้อัยการเพื่อสั่งฟ้อง น.ส.บุษราคัม คาดว่าไม่เกินอีก 2 สัปดาห์น่าจะทำสำนวนแล้วเสร็จจนสามารถสั่งฟ้องได้ โดยที่ผ่านมา น.ส.บุษราคัมก็ยังคงติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหากมีการขอสอบปากคำเพิ่มเติมก็เข้ามา แต่เหตุการณ์ล่าสุดพบว่าเกิดขึ้นที่สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี และทราบว่าผู้เสียหายกับ น.ส.บุษราคัมก็พบเจอและได้นัดทานข้าวด้วยกัน

              แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากมีผู้เสียหายเพิ่มเติมก็สามารถมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีในสถานีตำรวจในท้องที่นั้นๆ ได้ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เสียหายบางราย ได้ถูกไฟแนนซ์ฟ้องเรียกค่าเสียหาย โดยบางรายศาลได้พิจารณาลงโทษให้ผ่อนชำระใช้หนี้กับทางบริษัทรถยนต์หรือไฟแนนซ์นั้นๆ อีกด้วย จึงอยากฝากเตือนหนุ่มๆ ที่นิยมเล่นแอพหาคู่ ควรที่จะพิจารณาให้ดี เพราะเมื่อหากมีผู้ใดนำเอกสารไปซื้อ ผ่อนส่งของที่มีมูลค่าแล้วเป็นภาระผูกพันกับเรา เราก็จะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายด้วยเช่นกัน
Subscribe
Advertisement