พนักงานร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศวอนเจ้าของรถยนต์เก๋งคันในรูปนำกระเป๋าเงินและทรัพย์สินมาคืนเพราะใส่รถผิดคันไป
เมื่อเวลา 16.00น. ของวันที่ 24 สิงหาคม 2563 น.ส.พรทิพย์ คมศิริแสงยิ่ง อายุ48ปี เจ้าหน้าที่ตู้แลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ และดูแลร้านอาหารศาลาไทย ปากซอยจอมเทียน20 นาจอเทียน นำกล้องวงจรปิดภาพเหตุการณ์ที่ตัวเองนำกระเป๋าเงินภายในมีทรัพย์สินมีค่าจำนวนมากใส่ไว้ในรถผิดคัน เพราะคิดว่าเป็นรถของตัวเอง ขอให้ทางเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวมาคืน เพระตนเองเองได้ไปลงบันทึกและแจ้งความไว้แล้ว
ด้าน น.ส.พรทิพย์ คมศิริแสงยิ่ง ผู้เสียหายได้กว่าตอนเกิดเหตุประมาณ19.00น. ของวันที่ 22สิงหาคม 2563 ตนเองได้นำรถยนต์เก๋งสีขาว ของตัวเองมาจอดที่หน้าร้านตัวเองในจุดจอดประจำและมีรถยนต์เก๋งสีขาวรุ่นเดียวกันกับตัวเองเป็นผู้ชาย2คน และผู้หญิง2คน ทั้งหมด 4คน มาจอดด้านข้างรถของตัวเองและไม่ได้ล็อกรถพอตนออกจากร้านแลกเปลี่ยนเงินและเดินออกมาเพื่อนำกระเป๋าที่ใส่เงินสด2หมื่นบาท และทรัพย์สินอื่นมาใส่รถและกดรถเปิดประตูแตะไม่ได้มองรถว่าเป็นรถของตัวเองหรือป่าว และพอดีกับรถคันดังกล่าวไม่ได้ล็อกตนจึงนำกระเป๋าไปว่างที่เบาะหน้ารถ และกดล็อกรถไม่ได้มองดูว่าถูกคันหรือป่าว จึงเดินเข้ามาดูร้านอาหารและพอเวลาเลิกงานจึงเดินออกมาที่รถเพื่อกลับบ้าน แต่พอเปิดรถมาก็ตกใจกระเป๋าเงินหายจึงมาเปิดกล้องดูกล้องวงจรปิดดูก็พบว่านำกระเป๋าเงินใส่รถผิดคันไป เป็นชายและหญิงในรูปได้เข้ามาจอดและเข้าไปกินอาหารภายในร้านที่ตนเองดูแลด้วย
จึงมาร้องขอให้ทางสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ออกไปให้เจ้าของรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวนำทรัพย์สินกลับมาคืนตนเองด้วยเพราะเงินสดที่ติดไปเป็นเงินของทางร้านและเอกสารบัตรเครดิตและบัตรอื่นอีกจำนวนมาก ทำให้ตนเองเดือดร้อนมาก จึงฝากให้พี่น้องประชาชนที่รู้จักหรือเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวนำกลับมาคืนตนเองด้วย