เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 มิ.ย.63 ดร.ปนัดดา วงษ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำดี พร้อมทีมงาน ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 26/25 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับเรื่องราวร้องเรียนว่ามีเด็กหญิงวัย 10 ปี ถูกพ่อเลี้ยงลงมือล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อไปถึงพบกับนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี เป็นพี่สาว และเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี โดยที่พี่สาว ได้เล่าว่า เด็กหญิงบีได้พักอาศัยอยู่กับแม่แท้ๆ ที่อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ โดยแม่ได้แยกทางกับพ่อตั้งแต่ตนและน้องยังเด็กๆ จากนั้นตนได้ทำงานอยู่ต่างจังหวัด ระหว่างที่น้องสาวอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิด ตั้งแต่กอดจูบลูบคลำจนถึงขั้นใช้นิ้วสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ ตั้งแต่น้องอายุ 8 ปี แต่น้องไม่กล้าที่จะเล่าให้ใครฟัง เนื่องจากถูกข่มขู่และถูกทำร้ายร่างกาย ทั้งบีบคอ และยังเคยถูกใช้มือกดหัวจุ่มน้ำมาแล้ว จนน้องทนไม่ไหว ได้โทรศัพท์เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ตนฟัง ตนจึงปรึกษาทั้งน้าและป้า และตัดสินใจแอบไปรับตัวน้องมาหลบอยู่ที่จังหวัดชลบุรี เพราะกลัวว่าน้องจะไม่ปลอดภัย โดยก่อนหน้านี้ก็ได้ไปแจ้งความไว้กับร้อยตำรวจโท วิศวพงษ์ รองสารวัตร (สอบสวน) เจ้าของคดี สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิไว้แล้ว แต่ตำรวจทำได้แค่เพียงลงบันทึกประจำวันไว้ โดยแนะนำให้น้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อเอาหลักฐานมาเพื่อจะได้ออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวอ้างมาสอบสวน
ทางด้าน ดร.บุ๋ม ปนัดดา ได้กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นประธานองค์กรทำดี รับไม่ได้ที่เรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมครอบครัว ที่แม่มีพ่อใหม่แล้วมาทำร้ายลูก โดยที่แม่ไม่สามารถที่จะปกป้องลูกไว้ได้เลย ในเบื้องต้นได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิแล้ว คาดว่าทางตำรวจจะดูแลคดีนี้อย่างเต็มที่ตามพยานหลักฐาน จึงอยากฝากบอกน้องๆ หนูๆ ที่ถูกกระทำหรือล่วงละเมิดแบบนี้ ควรที่จะกล้าบอกญาติที่สนิทและไว้ใจ เพราะอย่างน้อยคนพวกนี้ควรจะถูกกฎหมายลงโทษ และไม่ควรอยู่ในสังคม
ทั้งนี้ทางญาติๆ ของน้องที่ถูกกระทำ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้คนที่ทำผิดติดคุก เพราะหากยังลอยนวลอยู่ น้องก็คงจะอยู่แบบลำบากและจะเป็นอันตรายกับเด็ก
Advertisement
