นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยถึงมาตรการการคัดกรอง หรือ Lockdown พัทยา ที่ดำเนินการตามมติคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี มาตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการลดภาวะการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 โดยมีการตรวจวัดไข้ และคัดกรองประชาชนที่เดินทางเข้าออกพื้นที่เมืองพัทยาชั้นในอย่างเข้มข้น โดยมีจุดดำเนินการจำนวน 8 จุดทั่วเมืองพัทยา ซึ่งจัดทำควบคู่ไปกับการ X-Rays ตรวจวัดเชื้อจากกลุ่มเสี่ยงด้วยระบบ Lamp Test จำนวนกว่า 2,000 ราย ที่พบว่ามีผู้เข้าข่ายมีเชื้อจำนวน 4 ราย และได้ส่งตัวเข้าทำการรักษาไปแล้ว ทั้งนี้อยากจะแจ้งให้ทราบว่าการดำเนินการทั้ง 2 อย่างที่จัดทำควบคู่มานั้นถือว่าได้ผลดีเกินคาด โดยได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อในพื้นที่เมืองพัทยาลดลง ซึ่งล่าสุดไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มแล้วถึง 13 วันหรือเกือบเข้าเกณฑ์การฟักตัวของเชื้อในระยะ 14 วันแล้ว จึงอยากขอบคุณประชาชนรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจังด้วย
ส่วนกรณีที่ว่าตามกำหนดการเดิมทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ได้มีมติการจัดทำจุดคัดกรองหรือ Lock Down ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายนนี้นั้น อย่างไรก็ตามล่าสุดทางภาครัฐได้มีประกาศว่าจะขยายระยะเวลาของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก เพื่อให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว ซึ่งเมืองพัทยาก็คงต้องรอการประเมินและผลสรุปของภาครัฐที่จะมีการประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 28 เม.ย. นี้ว่าจะดำเนินการไปในทิศทางใด จากนั้นก็คงจะพิจารณาการจัดทำเพื่อให้เกิดสอดคล้อง ด้วยหลายฝ่ายมองว่าการดำเนินการที่ผ่านมาถือว่าได้ผลดี แต่หากยุติและกลับมาดำเนินการกันตามปกติ สถานการณ์ก็อาจย้อนกลับมามีปัญหาได้อีก จึงต้องรอผลสรุปอีกครั้ง
นายสนธยา กล่าวต่อไปว่า แม้จะมีแนวโน้มที่จะมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพิ่มเติม แต่คาดว่าจะมีการหารือใน ครม.เพื่อกำหนดมาตรการด้านสาธารณสุขในการผ่อนปรนสำหรับธุรกิจบางประเภท เพื่อให้เปิดดำเนินกิจการได้ ซึ่งแบ่งออกเป็น ธุรกิจสีขาว สีเหลือง หรือสีแดง ตามแต่ความเสี่ยงของธุรกิจแต่ละประเภท ซึ่งกรณีนี้สำหรับเมืองพัทยาได้มีการเรียกประชุมภาคธุรกิจบางส่วนไปแล้ว และให้ไปคิดวิธีการในการจัดทำมาตรการเชิงรุกหากได้รับการผ่อนปรน โดยเฉพาะการจัดโซน การคัดกรอง หรือการป้องกันที่จริงจัง ก่อนจะมีนำเสนอเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
(ชมคลิป)
Advertisement
