สุภาดา ปธ.รับบิชคอม หลั่งน้ำตา หลังโดนผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองพัทยา ใช้วาจาไม่สุภาพใส่ทั้งที่มาติดต่อราชการ ก่อนขอร้องเรียนพฤติกรรมการทำงานต่อ ผกก. แต่ไม่ได้รับเรื่องร้องเรียน อ้างไม่ใช่เจ้าหน้าที่ น้อยใจทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอด แต่กลับถูกปฏิบัติแบบไม่มีใยดี พร้อมขอโทษหากมีภาพไม่ควรเพราะกำลังโมโหควบคุมสติอารมณ์ไม่ได้ (มีคลิป)

            เมื่อวันที่ 22 เม.ย.63 น.ส.สุภาดา วงศ์ซิ้ม ประธานองค์กรสื่อสารด้านการขยะ Rubbish Communication ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อร้องเรียนพฤติกรรมของผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายข่มขู่คุกคาม ก้าวก่ายนอกเหนือจากหน้าที่ที่เจ้าหน้าที่ผู้นั้นรับผิดชอบ ไม่บริการประชาชนที่มีติดต่อราชการด้วยมิตรไมตรี
              จากนั้นขึ้นไปยังบริเวณชั้น 2 ซึ่งต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสำนักงาน ผกก.สภ.เมืองพัทยา ออกมารับทราบข้อมูล แต่ระหว่างที่ น.ส.สุภาดา มีการเล่าเรื่องชี้แจงนั้นได้เกิดอารมณ์โมโห ประกอบกับเป็นคนเสียงดัง ทางพ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา จึงออกมาเชิญตัวเข้าไปพูดคุยภายในห้องทำงานส่วนตัว เพื่อให้ช่วยให้ความเป็นธรรมกรณีที่ตนเองได้มาติดต่อราชการกับพนักงานสอบสวนร้อยเวรเจ้าของคดีที่กำลังเดินการตามกระบวนการกฎหมายอยู่นั้น ได้มีการพูดคุยและสอบถามรายละเอียดกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงยอดค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระ และเพื่อความแน่ใจตนเองจึงถามย้ำไปว่า ไม่มีอะไรเพิ่มเติมแล้วใช่ไหมหลายครั้ง แต่มีผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นหญิงคนหนึ่งพูดแทรกมาทำนองว่าตนเองได้กล่าวหาว่าเจ้าพนักงานเรียกรับเงินอยู่หลายครั้ง ทั้งที่ตนเองมีการสนทนาอยู่กับพนักงานสอบสวนอยู่สองคน จนทำให้เกิดการโต้เถียงและด่าทอกันอย่างรุนแรง แต่สุดท้ายไม่สามารถเจรจาทำความเข้าใจกันได้ ด้วยอยู่ในจังหวะที่ยังมีอารมณ์ฉุนเฉียว จึงไม่สามารถหาข้อยุติในประเด็นดังกล่าวได้ โดยทางผู้กำกับการ สภ.เมืองพัทยา ได้แจงว่าหญิงสาวคนดังกล่าวไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไม่สามารถรับเรื่องร้องเรียนได้ แต่ได้ให้คำแนะนำในเรื่องของการแจ้งความเอาผิด หากประธานองค์กรฯ คิดว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดกระทำความผิดก็สามารถแจ้งความตามกระบวนการทางกฎหมายได้
           ประธานองค์กรสื่อสารด้านการขยะ กล่าวด้วยว่าตนเองได้ทำงานด้านการกุศลด้านสิ่งแลดล้อม ช่วยเหลือผู้อื่นมาโดยตลอดเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปี แต่กลับมาไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่มาติดต่อราชการก็ยังถูกผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ใช้วาจาไม่ดีอ้างว่าตนเองไปกล่าวร้ายตำรวจ บีบเค้นให้ตนพูดตอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ตนเองรู้สึกเหมือนว่าเป็นผู้มีพฤติกรรมที่แย่มาก และเสื่อมเสียเสียงชื่อเสียง ซึ่งตนไม่ได้เคยไปกล่าวหาตำรวจ จึงได้แจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีหญิงสาวคนดังกล่าวในความผิดฐานทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา และจะเรียกมาปรับถ้าให้การรับสารภาพ
             ที่ผ่านมาตนเองทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอด แต่เมื่อมีเรื่องติดต่อราชการกลับถูกปฏิบัติเหมือนไม่ใช่ประชาชน พูดจาข่มขู่และสอดแทรกทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่อะไร และหญิงสาวคนดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นข้าราชการตำรวจด้วย ตนเองแค่อยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อปรับปรุงด้านการบริการประชาชนของสถานีตำรวจให้ดีขึ้น เพราะเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ผู้มาติดต่องานสถานีตำรวจไม่ควรถูกกระทำแบบที่ตนเองเจอ เพราะทำให้ผู้มาติดต่อราชการเสียความรู้สึก แต่ตนเองก็ต้องขอโทษที่ไม่สามารถควบคุมสงบสติอารมณ์ตนเองได้เพราะอยู่ในช่วงที่โมโหจึงอาจเสียงดังและมีภาพที่ไม่ดีออกไปบ้าง

(ชมคลิป)

Subscribe
Advertisement