จากกรณีเกิดเหตุชิงทรัพย์ และลักทรัพย์มากขึ้น ในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เนื่องจากโรคโควิด19 ระบาด ทำให้รัฐบาลต้องมีคำสั่งประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ส่งผลให้เศรษฐกิจย่ำแย่และมีคนตกงานจำนวนมาก ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางมาตรป้องกันเหตุด่วนเหตุร้ายอย่างเข้มงวด โดยมุ่งเน้นไปทางเหตุประทุษร้ายเกี่ยวกับทรัพย์ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามบรรดาพ่อค้าแม่ค้า และผู้ประกอบการว่ามีความรู้สึกอย่างไรบ้างเกี่ยวกับสถานการณ์ในช่วงนี้
โดยนางเพ็ญ อายุ 53 ปี แม่ค้าขายของชำ เปิดเผยว่า ถึงไม่มีเหตุการณ์นี้ก็รู้สึกวิตกกังวลและตื่นตัวตลอดเวลา ซึ่งทางร้านได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับตนเองและครอบครัวมากขึ้นอีกด้วย
ขณะที่นายทิน อายุ 46 ปี พ่อค้าขายอาหาร และผักผลไม้ เปิดเผยว่า รู้สึกกลัวและวิตกกังวล เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าต้องเดินทางออกไปขายของในหลายๆ พื้นที่ ต้องเก็บสิ่งของมีค่าไว้ที่บ้าน จึงหวั่นว่าจะเกิดเหตุลักทรัพย์ขึ้น และด้วยพิษเศรษฐกิจแบบนี้เงินทองหายาก การค้าขายก็ลำบาก จึงต้องจำใจออกไปขายของเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพและครอบครัว อยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตราเข้มงวดให้มากขึ้น ตามบ้านเรือนที่อยู่ในพื้นที่เปลี่ยวและสุ่มเสี่ยง เพื่อสร้างความอุ่นใจให้ประชาชนมากขึ้น
ด้าน น.ส.เจี๊ยบ อายุ 38 ปี เภสัชกร เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันรู้สึกกลัว และหวั่นวิตกในเรื่องความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากทางร้านต้องเปิดทำการไปจนถึงช่วงดึกในทุกวัน โดยทางร้านได้มีมาตรการป้องกันตนเอง ทำการการติดกริ่งสัญญานฉุกเฉิน เตรียมนกหวีดใช้ในยามมีเหตุร้ายเพื่อขอความช่วยเหลือ พร้อมทั้งติดตู้แดงของตำรวจ เพื่อสร้างความอุ่นใจในความปลอยภัยให้กับตนเองมากขึ้น
(ชมคลิป)
Advertisement
