ยังคงดื้อหรือไม่เกรงกลัว ! เมืองพัทยาเตรียมออกคำสั่งใหม่รื้ออาคารล้ำแนวเขตคลองพัทยาใต้หลังข้อมูลคลาดเคลื่อน แต่ยังพบเจ้าของอาคารดื้อแพ่งเปิดใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตเตรียมเสนอเรื่องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายสุธรรม เพ็ชรเกตุ รองปลัดเมืองพัทยา รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการเอาคืนพื้นที่สาธารณะคลองพัทยาใต้ พร้อมด้วยด้วยเจ้าหน้าที่สำนักการช่าง เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
สำหรับการดำเนินการรื้อถอนอาคารรุกล้ำแนวคลองสาธารณะพัทยาใต้นั้นแบ่งการดำเนินการออกเป็น 3 โซน คือโซน A B และ C โดยได้มีการดำเนินการรื้อถอนอาคารในส่วนโซน AและB ไปแล้ว ยังเหลืออยู่ระหว่างรื้อถอนอาคารที่รุกล้ำโซน C ทั้งสิ้น 21 ราย โดยผลการดำเนินการทั้ง 21 รายนั้น ได้มีการรื้อถอนอาคารไปแล้ว 2 ราย อยู่ระหว่างปิดประกาศให้รื้อถอนจำนวน 7 ราย ระหว่างการดำเนินการเสนอคำสั่งให้รื้อถอน จำนวน 5 ราย และระหว่างการออกคำสั่งใหม่ตามผลพิจารณาอุทธรณ์อีก 7 ราย เนื่องจากพื้นที่มีความคาดเคลื่อน
นายสุธรรม เพ็ชรเกตุ รองปลัดเมืองพัทยา กล่าวว่าสำหรับการดำเนินการรื้อถอนอาคารปลูกสร้างรุกล้ำที่สาธารณะคลองพัทยาใต้นั้น จากผลการดำเนินการของเมืองพัทยามีความคืบหน้าไปเป็นอย่างมาก ซึ่งพื้นที่บริเวณคลองพัทยาใต้นั้น เมืองพัทยาดำเนินการเอาคืนพื้นที่สาธารณะจากประชาชนที่รุกล้ำแนวคลองด้วยการกดดันให้ประชาชนที่บุกรุกแนวคลองให้รื้อถอนอาคารที่พักอาศัยออก แต่ยังพบมีพื้นที่ใกล้เคียงที่มีการก่อสร้างอาคารขนาด 2 ชั้นของผู้ประกอบการรายหนึ่ง เพื่อประกอบกิจการสถานบันเทิง ซึ่งกรณีนี้ผ่านมาเมืองพัทยาได้มีการปิดหมายคำสั่งให้มีการรื้อถอนอาคารไปแล้ว แต่กลับพบว่าเจ้าขงอาคารมีการร้องอุทธรณ์คำสั่งเมืองพัทยาไปยังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี ซึ่งหลังจากที่มีการร้องอุทธรณ์ไปแล้ว ผลจากการที่คณะกรรมการพิจารณาได้ลงพื้นที่สำรวจก็พบว่าเมืองพัทยามีการออกคำสั่งผิดในเรื่องของพื้นที่ที่อาจมีความคลาดเคลื่อนจึงได้มีการยกคำอุทธรณ์คำสั่ง ส่งผลให้การดำเนินการรื้อถอนอาคารดังกล่าวเกิดความล่าช้า โดยจากนี้จะดำเนินการต้องออกคำสั่งรื้อถอนใหม่อีกครั้ง
ขณะที่ในระหว่างขั้นตอนของการร้องอุทธรณ์หรือแก้ไขคำสั่งใหม่นั้น เมืองพัทยาก็ได้มีการคำสั่งห้ามไม่ ให้มีการใช้อาคารดังกล่าว แต่กลับพบว่ามีการฝ่าฝืนเปิดใช้อาคารดังกล่าวเป็นสถานบันเทิง จึงได้มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
