ตำรวจท่องเที่ยวเชิญตัวนางรำปรับทัศนคติพร้อมตรวจสอบดำเนินคดี
จากกรณีมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ทวิต ข้อความพร้อมคลิปวิดีโอ ระบุข้อความว่า “โปรดระวัง!!!ถ้าเจอนางรำคนนี้อย่าถ่ายรูป ถ่ายคลิป ไปเที่ยววอล์คกิ้ง ละบังเอิญเจอรำอยู่ พอเห็นเรายกโทรศัพท์ขึ้นมา อยู่ๆนางก็เดินตรงลิ่วมาว่าเราเลย ด้วยความกลัว รีบบอกขอโทษค่ะเลย คือแบบถ้านางพูดดีดี จะควักตังให้อยู่นะ ก็ตามคลิปเลยน่ากลัวมาก #ทวิตดีคนรีน้อย #พัทยา” โดยนางรำคนดังกล่าวมาบอกว่า แต่งตัวมาตั้งนาน ไม่ได้ให้ถ่ายฟรีๆ จนเจ้าเจ้าของทวิตเตอร์รายนี้ตกใจต้องหยุดถ่ายทันที ทำให้มีสมาชิกเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งด้านมารยาทในการบันทึกภาพและด้านลบในการกระทำดังกล่าว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 3 มกราคม 2563 พ.ต.ท.สมบูรณ์ เอื้อสมานไมตรี สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 ร.ต.อ.ภาวิตร ฉิมพาลี รอง สว.ท่องเที่ยว เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวออกเดินตรวจสอบ และติดตามตัวนางรำที่ปรากฏในคลิปวีดีโอของนักท่องเที่ยว จนกระทั่งเจอตัวทราบชื่อคือนายณัฎกร หรืออาร์ม รุ่งโรจน์ อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี จึงได้เชิญตัวมาสอบสวนพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี พร้อมตรวจสอบบัตรประจำตัวผู้มีความสามารถที่ทางกระทรวงพัฒนาสังคม
สอบถามนายณัฎกร หรืออาร์ม ยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิปจริง พร้อมชี้แจงว่าในขณะที่ตนเองยืนโชว์อยู่ภายในวอล์คกิ้งสตรีทนั้น ได้มีนักท่องเที่ยวเป็นผู้หญิงหน้าตาดีมากับกลุ่มเพื่อน เดินบันทึกภาพวีดีโอพร้อมแสดงท่าทางขำขัน ตนเองทำให้ตนเองเกิดบันดาลโทสะ จึงเข้าไปชี้แจ้งว่าการที่ตนเองแต่งตัวออกมานั้นเพื่อหารายได้ ไม่ใช่ว่าออกมาให้ใครมาถ่ายฟรี คิดอยู่ว่าเขาจะเอาวีดีโอไปทำอะไรแต่เขาพูดว่าขอโทษจึงไม่ได้ติดใจอะไร ซึ่งโดยปกติก็ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องให้เท่าไหร่ หลังจากคลิปออกไปแล้ววันนี้เป็นวันแรกที่ออกมาทำงานก็ยังไม่รู้ว่าจะได้รับผลกระทบอย่างไร แต่ก็รู้สึกไม่ดีหลังจากที่ได้อ่านคอมเม้นต่างๆ และฝากบอกนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวว่าจะถ่ายใครให้เคารพสิทธิของผู้อื่นด้วย ก่อนจะกล่าวขอโทษที่แสดงกิริยาไม่ดีขณะที่สวมชุดประจำชาติอยู่ แต่ไม่ได้ขอโทษผู้ที่บันทึกคลิปแล้วแสดงอาการหัวเราะไปด้วย แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามพ.ต.ท.สมบูรณ์ เอื้อสมานไมตรี สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 ได้สั่งการให้มีการจับกุมนายณัฎกร รุ่งโรจน์ ในข้อกล่าวหาทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญในสถานที่สาธารณะหรือต่อหน้าธารกำนัล พร้อมทั้งตรวจสอบบัตรประจำตัวผู้มีความสามารถ พบว่ายังไม่มีมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวตรวจสอบ ก่อนทำการว่ากล่าวตักเตือนปรับทัศนคติเรื่องการแสดงท่าทีกับนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการช่วยกันสร้างภาพลักษณ์การบิการของเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาอีกด้วย
