งานป้องกันและควบคุมโรค สำนักการสาธารณสุขเมืองพัทยา แนะวิธีป้องกันโรค รับมือไวรัสโคโรน่า ทำได้ไม่ยุ่งยาก

           (28 มกราคม 2563) หลังจากพบผู้ป่วยปอดอักเสบ จากไวรัสโคโรน่า เมื่อวันสิ้นปี 2562 จนถึงนาทีนี้ ยังพบการระบาดไม่หยุด ซึ่งขณะนี้หลายฝ่ายเตรียมรับมือและเฝ้าระวังในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวจีนกันอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีอาการไข้สูงก็ให้ดำเนินการกักตัวพร้อมส่งยังโรงพยาบาลบำราษฎร์นราดูร เพื่อดำเนินการดูแลและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ส่วนในภาพรวมนั้นในพื้นที่เมืองพัทยาและอำเภอบางละมุงยังไม่พบผู้ป่วยแต่อย่างใด ซึ่งถึงแม้ว่าในพื้นที่อำเภอบางละมุงและพัทยายังไม่พบผู้ป่วย แต่ทุกหน่วยงานก็ได้ระดมความพร้อมและจับมือกันเพื่อสแกนและคัดกรองในส่วนของนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด ซึ่งในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวจีน และประชาชนทั่วไป ตอนนี้พบว่าได้มีการป้องกันตัวเองด้วยการหาซื้อหน้ากากอนามัยมาใส่ จนส่งผลให้ปัจจุบันหน้ากากอนามัยขาดตลาด และราคาสูงขึ้น
            นางณอัญญา จันทรากาศ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและควบคุมโรค สำนักการสาธารณสุขเมืองพัทยา ได้เปิดเผยว่า สำหรับเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นเป็นโรคระบาดทางเดินหายใจที่สามารถป้องกันได้ หากใครที่มีร่างกายที่แข็งแรง มีภูมิคุ้มกันที่ดีก็ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับเชื้อไวรัสโคโรน่าอย่างแน่นอน พร้อมทั้งยังพูดถึงการป้องกัน ว่าให้ทุกคนดูแลสุขภาพของตัวเอง กินร้อน ช้อนกลาง พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ล้างมือให้สะอาด เพราะสาเหตุหลักคือ มือ เพราะว่าเราใช้มือสัมผัสอะไรต่างๆ ในแต่ละวันมากมายควรหมั่นล้างมือบ่อยๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกาย หากมีอาการผิดปกติของร่างกายควรไปพบแพทย์ ไม่ควรไปที่ร้านขายยาเพื่อซื้อยาทานเองเพื่อบรรเทาอาการ หากใครที่มีน้ำมูกก็ควรใส่หน้ากากอนามัยและควรดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
           ด้านองค์การอนามัยโลก และกรมควบคุมโรค ก็ได้แนะนำ 10 ข้อปฏิบัติ ที่ทำได้ไม่ยุ่งยาก 1.ถ้ามีแผนไปประเทศที่โรคระบาดอยู่ ถ้าไม่จำเป็น ให้เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน 2.หลีกเลี่ยงสัมผัสสัตว์ ตลาดค้าสัตว์ หรือสินค้าจากสัตว์ เพราะการพบผู้ติดเชื้อกลุ่มแรก มาจากสัตว์สู่คน ที่ตลาดค้าอาหารทะเล และค้าสัตว์ที่เมืองอู่ฮั่น 3.ไม่เอาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่คนหนาแน่น 4.ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้มีอาการทางเดินหายใจ หรือมีอาการเป็นหวัด 5.หากกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง ถ้าเริ่มมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้รีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง 6.โทรแจ้งสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 เพื่อให้รถจากสถานพยาบาลมารับทันที 7.อยู่ห่างจากคนที่ไอหรือจาม 180 เซนติเมตร เพื่อให้พ้นจากรัศมีน้ำลาย และน้ำมูกที่จะกระจายออกมา 8.ล้างมือด้วยน้ำ และสบู่ อย่างน้อย 20 วินาที หรือใช้เจลล้างมือหรือแอลกอฮอล์ 9.กินร้อน ช้อนกลาง อาหารปรุงสุก พักผ่อนให้เพียงพอ 10.แม้จะเป็นข้อสุดท้าย แต่สำคัญมาก คือสวมหน้ากากอนามัยในที่ชุมชนคนหนาแน่นไว้ก่อน

Subscribe
Advertisement