รก.ปลัดเมืองพัทยาเดินหน้าตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างรุกคลองสาธารณะ พร้อมจี้ผู้ประกอบการเร่งดำเนินการรื้อถอน มั่นใจแก้ไขปัญหาได้เบ็ดเสร็จหลังเรื้อรังมานาน ชี้..ต้องเร่งแก้ไขเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมถาวร (มีคลิป)

            วันนี้ (19 ต.ค.62) นายสุธรรม เพ็ชรเกตุ รองปลัดเมืองพัทยา รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักการช่าง และเจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยาลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพแนวคลองปึกพลับ ริมถนนสายพัทยานาเกลือ ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อดูความคืบหน้าการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแนวคลอง ซึ่งสร้างปัญหาน้ำท่วมขังมาอย่างยาวนาน โดยจากผลการสำรวจพบว่ามีเจ้าของอาคารบางส่วนได้ดำเนินการแก้ไขและทุบตัวอาคารที่รุกล้ำออกไปแล้ว แต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ดำเนินการ และบางส่วนยังมีการอุทธรณ์และร้องต่อศาลปกครองเพื่อคุ้มครองเป็นการชั่วคราว จึงสั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาให้หมดไปโดยเร็ว หลังจากที่ปล่อยปละละเลยมานาน
            นายสุธรรม เพ็ชเกตุ รองปลัดเมืองพัทยา รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา กล่าวว่าคณะผู้บริหารเมืองพัทยามีนโยบายสำคัญในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่และทวงคืนพื้นที่สาธารณะอย่างเป็นรูปธรรม จึงเดินหน้าตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างอาคารรุกล้ำแนวเขตคลองสาธารณะในพื้นที่เมืองพัทยา โดยบริเวณคลองพัทยาใต้ คลองปึกพลับ และคลองนาเกลือ ซึ่งมีผู้บุกรุกเป็นจำนวนมาก
            ซึ่งที่ผ่านมาเมืองพัทยา ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงมหาดไทยให้ดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตามข้อ 5 (2) ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูแลและรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ.2553 จึงได้มอบหมายให้นายตรวจเขต เจ้าหน้าที่ผู้ส่งคำสั่ง พร้อมประสานการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่รังวัดจากสำนักงานที่ดินตรวจสอบคลองสาธารณประโยชน์เพื่อทราบแนวเขตคลองที่ชัดเจน พร้อมออกคำสั่งติดประกาศให้ผู้ที่มีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแนวคลองสาธารณประโยชน์ดำเนินการรื้อถอนอาคารดังกล่าวไปแล้ว
              นายสุธรรม กล่าวต่อไปว่าจากการลงพื้นที่สำรวจครั้งนี้พบว่ามีผู้ประกอบการบางส่วนได้ดำเนินการไปบ้างแล้วตามแนวคลองปึกพลับ นาเกลือ ซึ่งมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน A เป็นสิ่งปลูกสร้างประเภท อาคาร คสล. 1 – 4 ชั้น บ้านพักอาศัย และโครงสร้างหลังคาเหล็กต่างๆ จำนวน 11 ราย และโซน B เป็นสิ่งปลูกสร้าง ประเภท อาคาร คสล. 1 ชั้น อาคารไม้ บ้านอาศัย รวมทั้งสิ้น 30 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือดี
              อย่างไรก็ตามการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดฐานเข้ายึดครอบครองที่ดินของรัฐตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ต้องระวางโทษตามมาตรา 108 ทวิแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 จึงได้ดำเนินการแจ้งให้ผู้ที่ครอบครองที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวได้รับทราบ พร้อมติดประกาศคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง ดัดแปลงหรือเคลื่อนย้ายอาคาร โดยอาศัยอำนาจ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ตามมาตรา 40 วรรคหนึ่ง หรือให้ระงับการรื้อถอนอาคาร และตามมาตรา 41 วรรคหนึ่ง พร้อมกันนี้จะได้นำเจ้าหน้าที่และรถแบ็คโฮมาทำการขยายแนวคลองในส่วนของพื้นที่ที่ได้ดำเนินการรื้อถอนไปแล้วเพื่อให้น้ำไหลสะดวกมากขึ้น พร้อมให้ทำการออกแบบแนวกันดินสไลด์เพื่อให้สภาพคลองมีความกว้างขวางขึ้นและป้องกันการบุกรุกถาวรต่อไป โดยจะนำเรื่องเสนอต่อสภาเมืองพัทยาเพื่อขอจัดสรรงบจ่ายขาดเงินสะสมเข้ามาดำเนินการเร่งด่วน สำหรับจุดที่ยังไม่ได้ดำเนินการรื้อถอนนั้นจะมีการเจรจากับผู้ประกอบการ ผู้อาศัยให้ได้รับทราบและเร่งดำเนินการรื้อถอนโดยพร้อมกันทั้งหมดต่อไป ซึ่งคาดว่าจะได้รับความร่วมมือด้วยดี ส่วนกรณีของอาคารบางแห่งที่มีการอุทธรณ์คำสั่ง และการร้องไปยังศาลปกครองเพื่อชะลอหรือคุ้มครองนั้น กรณีนี้จะไปตรวจสอบและดูเอก สารอีกครั้งว่ามีการคุ้มครองจากศาลหรือไม่ ซึ่งหากยังไม่มีคำสั่งใดๆ เมืองพัทยาก็จะเข้าไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาดทันที เนื่องจากทราบว่าเป็นปัญหาเรื้อรังมานานแล้ว

(ชมคลิป)

Subscribe
Advertisement