วันนี้ (2 ก.ย.62) ที่สำนักงานอำนวยการ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายวันเฉลิม กุนแสน แกนนำและนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในพัทยา ได้เดินทางมาพร้อมกลุ่มผู้ประกอบการสถานบริการบาร์เบียร์ภายในซอยเวลคัม ริมหาดจอมเทียน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ในฐานะทนายความ ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว โดยอ้างว่าได้รับความเดือดร้อนจากการถูกจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยต้องการจะยื่นหนังสือดังกล่าวให้ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เพื่อพิจารณาในประเด็นของการแก้ไขการสั่งปิดเป็นเวลา 30 วัน และให้ผ่อนปรน หรือขยายเวลาเปิดปิดกิจการออกไปเนื่องจากเมืองพัทยาเป็นเขตปกครองพิเศษ และให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการร้องเรียนก่อนการจับกุมว่าเรื่องร้องเรียนนั้นเป็นการกลั่นแกล้งทางธุรกิจหรือไม่ ตลอดจนในกรณีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ต้องใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เช่น การจับกุมร้านไหนต้องจับกุมหมดทุกร้าน ไม่เลือกปฏิบัติเพราะถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า ซึ่งทางตัวแทนของ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ซึ่งติดราชการ ได้อำนวยความความสะดวกโดยการนำกลุ่มผู้ร้องไปยื่นหนังสือยังเจ้าหน้าที่ตามกระบวนการก่อนแจ้งไปยัง ผกก.สภ.เมืองพัทยาให้รับทราบตามลำดับต่อไป
นายวันเฉลิม กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะทนายความ ซึ่งมีผู้ร้องเรียนผ่านไปยังศูนย์ดำรงธรรมว่ามีผู้ประกอบการบางรายส่งเสียงดังสร้างความรบกวน จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมในที่สุด ซึ่งทางผู้ประกอบการมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เหมือนเลือกปฏิบัติเพราะไม่มีการตรวจสอบ จึงทำหนังสือร้องเรียนให้ผู้กำกับการพิจารณาตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่และให้มีการผ่อนปรนผู้ประกอบการ เนื่องด้วยเศรษฐกิจไม่ดี หากบังคับใช้กฎหมายจริงจัง ผู้ประกอบการก็อยู่ไม่ได้
ต่อมาทางคณะผู้ร้องเรียนดังกล่าวได้เดินทางเข้าพบนายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง และคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต 7 พรรคอนาคตใหม่ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ โดยทาง ส.ส.ได้รับหนังสือไว้พร้อมบอกว่ามาเป็นคนกลางรับฟังปัญหา ซึ่งจะไปดำเนินการตามแนวทางนิติบัญญัติต่อไป ส่วนในเรื่องของการปฏิบัติงานนั้นเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว ซึ่งอยู่ในคนละส่วนกัน
ทั้งนี้ นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐก็มีการดำเนินการอย่างถูกต้องเป็นขั้นเป็นตอน ทุกวันนี้บริหารท้องถิ่นก็ให้อยู่กันด้วยความอะลุ่มอล่วย เพราะทราบดีถึงบริบทเมืองท่องเที่ยว ซึ่งหากบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังนั้น ผู้ประกอบการก็อยู่ไม่ได้ แต่เมื่อมีร้องเรียนแล้ว เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินการตามไปตามขั้นตอน โดยจากการตรวจสอบกลุ่มผู้ร้องจำนวน 4 ราย พบว่าส่วนใหญ่ไม่มีอนุญาตเปิดให้บริการ บางรายเปิดเกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนด จำหน่ายหรือเปิดให้บริการในวันสำคัญ ซึ่งหลังจากนี้จะได้ทำการตรวจสอบร้านดังกล่าวอย่างเข้มงวดและบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการที่ไม่อยู่ในร่องในรอยของสังคมต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายตามมา ก่อนทั้งหมดจะพาแยกย้ายกันเดินทางกลับตามลำดับ
(ชมคลิป)
Advertisement
