นายกตะเคียนเตี้ย เผย ที่ผ่านมาหลับตาข้างเดียว รู้ทั้งรู้ มีการปลูกสร้างบ้านในที่ สปก. หมู่ 5 แต่ไม่อยากขับไล่ เพราะในอดีตชาวบ้านที่อาศัยอยู่มีฐานะยากจน ปัจจุบันประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า ซ้ำร้องเรียนเทศบาล จากนี้คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ สปก.ดำเนินการตามขั้นตอน

 

                 (23 กรกฏาคม 2562) จากรณีที่มีชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลตะเคียนเตี้ย 59 ครัวเรือน ได้ลงชื่อเพื่อร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ว่าทางเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ยไม่สนใจความเป็นอยู่ของประชาชน ปล่อยให้ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลตะเคียนเตี้ยต้องเผชิญเคราะห์กรรม จากการที่ไม่ได้รับการดูแลพัฒนาทางระบบสาธารณูปโภค ถนนหนทาง น้ำ ไฟ ไม่มี ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ได้รับความเดือดร้อนในการอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก โดยหลังจากที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรีทราบเรื่อง ก็ได้ทำการสอบถามและให้ทางเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ยทำการชี้แจงความเป็นจริง
               เรื่องดังกล่าว นายมานพ ประกอบธรรม นายกเทศมนตรีตำบลตะเคียนเตี้ย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องราวที่ชาวบ้านทั้ง 59 ครัวเรือน ไปร้องเรียนยังศูนย์ดำรงธรรมนั้นเป็นเรื่องไม่จริง ซึ่งที่ผ่านมานั้นทางเทศบาลได้ทำการช่วยเหลือและดูแลชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 5 มาโดยตลอดเท่าที่ทาง เทศบาลจำทำได้ แต่เนื่องจากพื้นที่ที่ชาวบ้านไปทำการปลูกบ้านเรือนที่อยู่อาศัยนั้น เป็นที่ สปก.4-01 นั้น หมายถึงที่บริเวณดังกล่าวสามารถใช้ทำการเกษตรได้อย่างเดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ทำอย่างอื่นได้ ซึ่งเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาก็พบว่าพื้นที่ดังกล่าว ชาวบ้านในตำบลตะเคียนเตี้ยดั้งเดิมก็ได้อาศัยพื้นที่ดังกล่าวทำการเกษตรจริง โดยในอดีตเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาพบว่ามีประชากรเพียง 100 คนเท่านั้น แต่จากอดีตถึงปัจจุบันพบว่ามีประชาชนปลูกสร้างบ้านเรือนบริเวณดังกล่าวกว่า 296 ครัวเรือน มีจำนวนประชากรจำนวนทั้งสิ้น 1,231 คน ถามว่าที่ผ่านมาทำไมทางเทศบาลเพิกเฉยหลังจากที่ทราบว่าที่บริเวณดังกล่าวมีการเข้ามาสร้างที่อยู่อาศัยแทนการทำการเกษตร ก็ต้องยอมรับว่าคนไทยด้วยกัน ถ้าทางเทศบาลทำการไล่ที่ลงไปก็เหมือนการกลั่นแกล้ง อีกทั้งที่ดินบริเวณดังกล่าวก็เป็นที่ของ สำนักงานปฏิรูปที่ดิน ทางเทศบาลไม่มีหน้าที่ในการขับไล่ เพียงแต่ได้แจ้งไปยังสำนักงานปฏิรูปที่ดินแล้วว่าปัจจุบันมีการบุกรุก แต่ทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินก็ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ จนกระทั่งมีการร้องเรียนเกิดขึ้น
              ที่ผ่านมาทางเทศบาลได้ทำการดูแลพี่น้องประชาชนมาอย่างดี ไม่เคยทอดทิ้ง ประชาชนต้องการไฟฟ้าใช้ ทางเทศบาลก็ได้แนะนำว่าต้องไปทำเรื่องถึงสำนักงานปฏิรูปที่ดินในฐานะเจ้าของที่ดิน จากนั้นทางเทศบาลจึงจะดำเนินการต่อไปได้ ก็ให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องของการพัฒนาถนนหนทางนั้น ที่ผ่านมาก็ไม่เคยทอดทิ้ง เพียงแต่ว่าในการดำเนินการนั้นต้องได้รับการตอบรับ หรือคำยืนยันจากทาง สปก.ก่อนว่าบริเวณดังกล่าวเป็นทางสาธารณประโยชน์ และอนุญาตให้ทางเทศบาลเข้าไปทำการพัฒนาได้ จึงจะสามารถเข้าไปพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวได้ ทำให้การดำเนินการพัฒนาเป็นไปด้วยความล่าช้า เพราะหากทางเทศบาลดำเนินการไปโดยไม่ได้รับคำยืนยันจากทาง สปก.แล้ว ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินทำการตรวจสอบมา ก็อาจจะถูกเรียกเงินคืนจากผู้บริหารได้ ดังนั้นการดำเนินพัฒนาในพื้นที่หมู่ 5 นั้น ต้องเป็นไปด้วยความรอบคอบ จึงอาจทำให้ชาวบ้านทั้ง 59 ครัวเรือนไม่พอใจและเกิดการร้องเรียนขึ้น

ซึ่งปัจจุบันทางเทศบาลได้ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านแล้ว พร้อมทำเรื่องชี้แจงไปยังสำนักงานปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้เข้ามาดำเนินการกับชาวบ้านทั้ง 296 ครัวเรือน ว่ามีการบุกรุก และมีการขายสิทธิ์กันเกิดขึ้น ทาง สปก.จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งเรื่องของการดำเนินการบริหารจัดการที่ดินดังกล่าวนั้น ทางเทศบาลคงไม่สามารถทำได้ คงต้องเป็นหน้าที่ของ สปก.ในการดำเนินการกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณดังกล่าว โดยจากนี้ไปทางเทศบาลก็ยังคงดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในหมู่ 5 เหมือนเดิม แต่ก็อยากจะให้เข้าใจถึงขอบเขตการทำงานของทางเทศบาลด้วย
Subscribe
Advertisement