จากกรณีเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 เวลาประมาณ 21.18 น. ได้มีเพจข่าวชาวบ้าน นาม Thai Tv Social ได้โพสว่า มีรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน 6 กด 1295 กทม. โดยมีชายไทยเป็นผู้ขับขี่ และได้นำอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ออกมาแสดงข่มขู่ ทำให้ประชาชนตกใจกลัว จนมีการแชร์ภาพออกไปในโซเชียล และวิพากย์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
ล่าสุดความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 27 พ.ค.62 ที่สถานีตำรวจภูธรหนองปรือ นายประสิทธิ์ ทองคำ อายุ 50 ปี (ผู้เสียหาย) ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ พ.ต.ท. ประทีป ทองดี รองผู้กำกับสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองปรือ โดยเปิดเผยว่า ตนมีอาชีพทำงานเป็นคนขับรถทัวร์ท่องเที่ยวของบริษัททัวร์ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่เมืองพัทยา ก่อนเกิดเหตุกำลังจะพานักท่องเที่ยวสัญชาติจีน ชาย-หญิง เต็มคันรถ ไปขี่ช้างที่สวนช้าง หมู่บ้านเชียงใหม่ ภายในซอยเขาตาโล เขตเทศบาลเมืองหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี แต่ระหว่างทางพอมาถึงซอยเขาน้อย ได้มีรถทัวร์อีกหนึ่งคันเสียอยู่กลางทาง จึงทำให้รถของตนวิ่งเลนซ้ายไม่ได้ จึงต้องเบนรถออกเลนขวาเพื่อไปต่อ แต่ไม่เห็นว่ารถยนต์กระบะนี้มาจากไหน รถกระบะได้วิ่งตรงเข้ามาหา จึงบีบแตรรถเพื่อหวังให้ทราบ แต่คาดว่าคนขับรถยนต์กระบะคงตกใจ จึงชวนทะเลาะ ส่งสัญญานเรียกให้ตนขับรถจอดที่เลนซ้าย แต่ตนไม่จอด จากนั้นรถยนต์กระบะจึงได้ขับแซงขึ้นมา และคนขับได้ควักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ กวักให้หยุดรถเข้าเลนซ้าย ซึ่งขณะนั้นยังมีนักท่องเที่ยวสัญชาติจีนอยู่เต็มรถ จึงทำให้ขวัญผวาเกรงกลัวในด้านความปลอดภัยของการท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งตนยืนยันว่า วอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ถึงสุด เพื่อนำภาพลักษณ์อันดีด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยากลับคืนมา
ด้าน พ.ต.ท.ประทีป ทองดี รองผู้กำกับสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองปรือ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้รายงานให้ พ.ต.อ.ชิดเดชา สองห้อง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองปรือทราบ และได้รับคำสั่งให้ดำเนินการติดตามตัวผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว มาทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีให้ได้ จนกระทั่งสืบทราบว่า นายจตุภัทร (หรือกอล์ฟ) โพธิ์เดช อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ตามสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน อยู่เลขที่ 87 หมู่ 1 ตำบลหัวหวาย อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เป็นผู้ก่อเหตุ ทางตำรวจสืบสวนจึงได้ทำการติดต่อนายจตุภัทร ให้เข้ามาให้พบเจ้าหน้าที่ฯเพื่อทำการสอบสวน ซึ่งนายจตุภัทรก็ยินยอม โดยก่อนหน้านี้ได้เดินทางเข้ามาพบร้อยเวรสอบสวน พร้อมกับนำสิ่งเทียมอาวุธปืน (บีบีกัน) ยี่ห้อ COLT สีดำ จำนวน 1 กระบอก และซองบรรจุกระสุน (บีบีกัน) สีดำ จำนวน 1 ซอง ที่อ้างว่าใช้ในการก่อเหตุ มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ โดยให้การรับสารภาพว่า ได้เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง
ในเบื้องต้นทีมสอบสวน ได้ส่งของกลางลำดับที่ 1 คือ สิ่งเทียมอาวุธปืน (บีบีกัน) ยี่ห้อ COLT สีดำ จำนวน 1 กระบอก และของกลางลำดับที่ 2 คือ ซองบรรจุกระสุน (บีบีกัน) สีดำ จำนวน 1 ซอง ส่งให้วิทยาการเวรผู้ชำนาญการ ตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อทำการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ หากพบว่าเป็นอาวุธปืนจริง ก็จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งฟ้องศาลอาญาจังหวัดพัทยา หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน ก็จะดำเนินการส่งฟ้องศาลแขวงจังหวัดพัทยา โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
