จากกรณีในสังคมออนไลน์โซเชียลเน็ตเวิร์คเฟสบุ๊ก ได้มีการแชร์คลิปวีดีโอปล่อยน้ำเสียลงทะเล ทำให้น้ำทะเลบริเวณดังกล่าวกลายเป็นสีดำทั้งหมด ซึ่งระบุจุดที่ปล่อยคือท่อระบายน้ำเสียภายในซอยนาจอมเทียน 8 ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พ.ค.62 ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลนาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายอนุชา อินทศร นายอำเภอสัตหีบ พร้อมด้วยนายสมพงษ์ สายนภา นายกเทศมนตรีตำบลนาจอมเทียน ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวแทนฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน และเทศบาล เพื่อร่วมหารือแนวทางและวิธีการแก้ไขปัญหาน้ำเสียลงทะเลที่เป็นข่าวคราวครึกโครมในปัจจุบัน
นายอนุชา อินทรศร นายอำเภอสัตหีบ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งในส่วนของนาจอมเทียนและเมืองพัทยา จึงต้องเร่งดำเนินการแก้ไข โดยปัญหาที่เกิดขึ้นรับทราบว่าเทศบาลซึ่งมีระบบระบายน้ำเสียเองแต่ยังไม่มีระบบบำบัด จึงมีการประสานงานไปยังเมืองพัทยาเพื่อขอส่งน้ำเสียไปบำบัดและกำลังรอการทำ MOU แต่ก็มาเกิดปัญหาขึ้น อย่างไรก็ตาม มาตรการเร่งด่วนที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ คือ 1. การร่วมมือการจัดทำความสะอาดบริเวณจุดที่เกิดปัญหาและแนวชายหาดทั้งหมด 2. เมื่อยังไม่สามารถระบายน้ำเข้าสู่ระบบบำบัดของเมืองพัทยาได้ เนื่องจากระบบปั๊มและสถานีสูบยังคงชำรุด ก็ต้องเร่งแก้ไข และในช่วงรอการดำเนินการก็ให้ทำการประสานเมืองพัทยานำรถมาสูบน้ำเสียค้างท่อทั้งหมดเพื่อขนส่งไปบำบัดเป็นการชั่วคราว ซึ่งหลังเกิดปัญหาได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 6,000 ลบ.ม.จนปริมาณน้ำค้างท่อลดลง และ 3. เร่งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชน รวมทั้งการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจซึ่งมอบหมายให้ผู้นำชุมชนออกตรวจสอบเฝ้าระวังปัญหา รวมทั้งทางเทศบาลจะต้องตรวจเช็คปริมาณค้างท่อสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำเสียไหลสู่ทะเลอีก ที่สำคัญจะมีการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจซึ่งเป็นการร่วมงานกันของทุกภาคส่วนในการออกตรวจสอบสถานประกอบการโรงแรมขนาดใหญ่ในพื้นที่นาจอมเทียนจำนวน 4 โซน รวม 38 โรงแรม เพื่อตรวจดูระบบบำบัดของโรงแรมว่ามีมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดก่อนปล่อยเข้าสู่ระบบระบายน้ำหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องปรามและแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ซึ่งหากพบการกระทำผิดก็จะดำเนินการให้แก้หรือลงโทษตามกฎหมาย