เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (23 ธ.ค.61) ที่สุสานหรือป่าช้าบ้านมาบฟักทอง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี ประธานมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ จ.ชลบุรี ได้มอบหมายให้นายสมพล จงกลฐากร ผู้จัดการมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน มาเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมทดสอบกำลังใจ อาสาสมัครกู้ภัยฯน้องใหม่ พร้อมมอบบัตรประจำตัวอาสาสมัครกู้ภัยฯ ประจำปี 2562 โดยมีพลเรือตรี ไชยชนะ อาทมาท อดีตเจ้ากรมโรงงาน ฐานทัพเรือสัตหีบในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ คณะกรรมการกู้ภัย ผู้จัดการ กู้ภัย และอาสาสมัครกู้ภัยจำนวน กว่า 300 นายเข้ารับการฝึกอบรมดังกล่าว
นายพิชิต เกลียกกุทัณฑ์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจำนวนหนึ่ง ได้พาอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสมัครใหม่ จำนวน 60 คน เดินทางไปที่สุสานหรือป่าช้าบ้านมาบฟักทอง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นเวลากลางคืน พร้อมนำอุปกรณ์พรางหน้าของทหารทาหน้าอาสาสมัครใหม่ มีฐานกิจกรรมจำนวนมาก ล้วนแล้วมีแต่ความยากลำบาก ต้องเปรอะเปื้อนไปทั้งตัว และยังมีการฝึกวัดใจในรูปแบบต่างๆ คล้ายกับการฝึกทหาร แต่เป็นที่น่าแปลกใจอย่างมาก วัยรุ่นทุกคนสมัครใจ เต็มใจ และสนใจกับการฝึกทดสอบจิตใจเป็นอย่างมาก ซึ่งหลังการทดสอบกำลังใจและผ่านฐานกิจกรรมตามเกณที่กำหนดแล้วในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น จะมีพิธีรับบัตรประจำตัวพร้อมนามเรียกขานอาสาสมัครกู้ภัยฯถือว่าทุกนาย/นาง ได้เป็นอาสาสมัคร หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบอย่างเต็มตัว
อาสาสมัครกู้ภัยใหม่ที่เข้ารับการฝึกรับน้องใหม่ เปิดเผยว่า สาเหตุที่สมัครเข้ามาเป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยเพราะต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เห็นคนเจ็บบ่อยครั้งแต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้เพราะไม่ได้รับการฝึก ไม่มีหน้าที่ในการช่วยเหลือ ถ้าผิดพลาดอาจมีความผิดตามกฎหมายได้ เมื่อมีโอกาสจึงได้สมัครเข้ามาช่วยเหลือสังคม ต้องยอมรับว่า ประเพณีรับน้องใหม่ของหน่วยกู้ภัยแห่งนี้โหด ใช้ระบบทหารเข้ามาฝึก ให้เกิดระเบียบ วินัย สะดวกต่อการปกครอง การฝึกมีเหตุผลที่ยอมรับได้ทุกอย่างถึงแม้จะเหนื่อย สกปรก เปรอะเปื้อน เพราะต้องการเป็นอาสาสมัครอย่างสมบูรณ์แบบเหมือนรุ่นพี่ๆ
นายพิชิต เกลียกกุทัณฑ์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัย มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ เปิดเผยว่า หน่วยกู้ภัยสัตหีบแห่งนี้ก่อตั้งมานานแล้วกว่า 30 ปี ซึ่งคนไทยเชื้อสายจีน ก่อตั้งขึ้นมาด้วยความเสียสละ ซึ่งรุ่นแรกๆ เป็นประชาชนชาวสัตหีบ จำนวน 30 คน จึงได้มีการนำเอารูปแบบการฝึก อบรมทหารมาใช้ในการฝึกอาสาสมัครกู้ภัย และขยายกว้างไปสู่ประชาชนจนมีอาสาสมัครนับร้อยคน ส่วนเป็นประเพณีปฏิบัติในการรับน้องใหม่หรือการฝึกน้องใหม่ต้องเข้าไปฝึกในป่าช้าเพื่อให้เกิดความกล้า ลดความกลัว เพื่อเป็นการฝึกจิตใจเข้มแข็ง เพราะชีวิตกู้ภัยต้องคลุกคลีอยู่กับศพทั้งสิ้น ถ้ากลัวก็จะไม่สามารถทำงานได้ การฝึกอบรมอาสาสมัครจึงต้องฝึกให้จิตใจเข้มแข็ง ไม่กลัว มีระเบียบ วินัย และที่สำคัญ ต้องพร้อมที่จะเสียสละในการช่วยเหนือผู้ประสบภัยทุกประเภททั้งทางบก และทางทะเล
ภาพ/ ข่าว : ทิวากร
Advertisement
